SET ซึมต่อ เลือกเก็บ 14 หุ้นงบสวย
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ตลาดยังไร้ปัจจัยบวกและซึมตัวต่อเนื่องก่อนวันหยุดยาว การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดีเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.58 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ตลาดยังไร้ปัจจัยบวกและซึมตัวต่อเนื่องก่อนวันหยุดยาว การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาสแรกออกมาดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก PTT-PTTEP-PTTGC-BANPU-TACC-KKP-BIG-TASCO-ADVANC-DTAC-DELTA-KCE-MALEE และ MAJOR
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (11 เม.ย.) คาดว่าจะทรง ๆ ตัว ถึงซึมได้เล็กน้อย เนื่องจากไทยก็ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ นักลงทุนคงจะอยากที่จะไปเที่ยวก่อนและชะลอการลงทุน ดังนั้น โอกาสที่ดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นไปก็ไม่มาก ส่วนการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผลก็ไม่ได้สร้างความกดดันมากแล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ คงจะปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งนอกประเทศเวลานี้นักลงทุนก็ได้ผ่อนคลายสถานการณ์ในซีเรียบ้างแล้ว ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัว กระแสเงินก็ไม่ผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นต่อ ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,579-1,587 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) คาดตลาดหุ้นยังคงแกว่งตัวแคบ และยังมองว่า SET จะปิดเหนือ 1,580 จุดต่อไป แต่คาดจะผันผวนมากขึ้นหลังจากนี้ จาก 1) ประธาน Fed จะกล่าวสนทรพจน์คืนนี้ อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ 2) บ.จดทะเบียนในสหรัฐฯจะเริ่มรายงานงบฯ พฤหัสฯ นี้ ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่ไทย จะเริ่มรายงานงบ ตั้งแต่ครึ่งหลัง เม.ย. อย่างไรก็ตาม The revision บ่งชี้ว่าโดยรวมแล้ว นักวิเคราะห์ไม่ได้มีมุมมองที่ดีนักต่อกำไรบ.จดทะเบียนฯไทย และเรายังมอง ว่า SET มี upside จำกัด ที่แนวต้าน 1,595 – 1,600 จุด แนะนำ “Trading” ต่อไป ด้วย trailing stop หาก SET หลุด 1,568 ลงมา
แนะนำ 1) “ซื้อ” หุ้นที่ระยะสั้นมีปัจจัยหนุน เช่น PTTGC (ราคาน้ำมันปรับขึ้น และคาดงบไตรมาส 1/17 ดี) KKP ปันผลสูง 8.5% และใกล้วัน XD.. 4 บ. 28 เม.ย. นี้ 2) “เก็งกำไร” หุ้นส่งออก จากค่าเงินบาทอ่อนตัวเร็ว เช่น DELTA KCE MALEE (ธุรกิจฟื้นตัวดีทุกๆเดือน ตั้งแต่ ม.ค.ที่ผ่านมา และส่งออกโตสูง) และ 3) “ซื้อ” MAJOR ไตรมาส 2 เป็น high season ของธุรกิจโรงภาพยนต์
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.) คงมุมมองเป็นกลาง ตลาดยังไร้ปัจจัยบวก วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกานต์ และสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียจะยังกดดันให้นักลงทุนชะลอการลงทุนหรือเน้นเล่นสั้นจบในวัน ทำให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังซบเซา โดยวันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานจะยังเป็นกลุ่มที่ช่วยประคองตลาด จากแรงหนุนของราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 รับข่าวลิเบียสั่งปิดบ่อน้ำมัน ชารารา ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธได้ปิดกั้นท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมต่อไปยังสถานีขนถ่ายน้ำมัน
กลยุทธ์การลงทุนยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ 1) หุ้นที่แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 1/17 ออกมาดี อาทิ PTTGC, BANPU, TACC, KKP, BIG, และ TASCO 2) หุ้นกลุ่มสื่อสาร ADVANC DTAC คาด TOT จะเปิดเผยรายชื่อผู้ร่วมธุรกิจคลื่น 2300MHz ในวันที่ 12 เม.ย. 3) PTTEP PTT รับผลบวกราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นและเป็นตัวเต็งที่จะชนะประมูลสัมปทานปิโตรเลียมของแหล่งเอราวัณ และ แหล่งบงกช ในช่วงปลายปี
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : PTTGC (ซื้อ/เป้า 82.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/17 ประมาณ 1.15 หมื่นล้านบาท (EPS 2.60 บาท) เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน และ 144% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน จากธุรกิจ olefins ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง