JAS กับธุรกิจใหม่ที่ท้าทาย กูรูฟัน 7.69 บ.เป้าใหม่ไฉไลกว่า
JAS ลุยประมูล 4G ธุรกิจใหม่สุดท้าทาย งานนี้จับตาจะขึ้นครองตลาดเช่นเดียวกับธุรกิจบอดแบรนด์หรือไม่ ฟากโบรกฯมองมูลค่าหุ้นยังถูก แนะ 3 ทางเลือกจังหวะเหมาะควรสอย พร้อมปัจจัยหนุนราคาหุ้นเพียบ คราวนี้เป้าใหม่ 7.69 บ.
JAS ลุยประมูล 4G ธุรกิจใหม่สุดท้าทาย งานนี้จับตาจะขึ้นครองตลาดเช่นเดียวกับธุรกิจบอดแบรนด์หรือไม่ ฟากโบรกฯมองมูลค่าหุ้นยังถูก แนะ 3 ทางเลือกจังหวะเหมาะควรสอย พร้อมปัจจัยหนุนราคาหุ้นเพียบ คราวนี้เป้าใหม่ 7.69 บ.
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบทวิเคราะห์ บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS พบว่าหลายโบรกฯได้ทำการออกบทวิเคราะห์แตกต่างกัน วัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการให้นักลงทุนเข้าศึกษาก่อนลงทุน
โดยฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ JAS ว่า ถึงแม้ว่าธุรกิจ FBB ของบริษัทจะมีการเติบโตในไตรมาส 1/58 แต่คาด JAS ยังคงรายงานกำไรสุทธิลดลง เนื่องจากการเปลี่ยนโครงสร้างทางการเงิน หลังจากการจดทะเบียนกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)
โดยบริษัทกำลังจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้ เกี่ยวกับการออก warrant ซึ่งประเมินว่า นักลงทุนมีโอกาสเลือกซื้อหุ้น JAS ได้ 3 ทาง คือ 1) ซื้อก่อน XW เพื่อได้ หุ้นและ warrant ฟรี 2) ซื้อหลัง XW เพื่อราคาหุ้นที่ถูกลง และ 3) ซื้อ warrant เพื่อจำกัดความเสี่ยง
คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.69 บาท เนื่องจากยังคงชอบธุรกิจ FBB ที่โดดเด่นของบริษัทในต่างจังหวัด และมูลค่าหุ้นที่ยังคงถูก โดยคาดว่าบริษัทยังมีปัจจัยที่คาดว่าจะทำให้ปรับราคาหุ้นขึ้นได้ จาก 1) การยกเลิกการออก warrant 2) การแพ้การประมูล 4G และ 3) การมีผู้ร่วมทุนใหม่ในการทำ 4G
ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ถึง JAS ในอีกมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับธุรกิจใหม่ประมูลคลื่นความถี่ 4G แข่งขันกับผู้ประกอบการรายเดิม พร้อมประเมินว่าแผนลงทุน 4G นั้นยังเร็วเกินไปที่จะประเมินปัจจัยบวกของใบอนุญาตใหม่เข้าไปในมูลค่าหุ้นตอนนี้
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าธุรกิจใหม่ที่ JAS ตัดสินใจเลือกยังเป็นสิ่งท้าทายมากเพราะนอกจากจะต้องชนะการประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ที่ต้องต่อสู้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือรายเดิมทั้ง 3 รายที่ถือว่ามีฐานเงินทุนสูงกว่า JAS และต้องสร้างฐานลูกค้าใหม่ขึ้นมา โดยหาก JAS ชนะประมูลใบอนุญาต 4G ได้ อาจจะมีผลกระทบต่อบริษัทระยะเริ่มต้น คาดว่ากำไรของ JAS จะถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
รวมทั้งค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อสร้างฐานลูกค้า หากอิงกับ ARPU ที่ 690 บาท (เท่ากับที่บริษัทตั้งเป้า) และลูกค้า 1 ล้านรายในปีแรก คาดจะสร้างรายได้ให้ JAS ราว 4.1 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่น่าจะเพียงพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ
ระยะยาว การจะถึงจุดคุ้มด้วยการมีลูกค้า 4G จำนวน 1 – 2 ล้านราย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป้าจะให้บริการภายใต้การเช่าเสา 10,000 ต้น ยังถือว่าต่ำกว่าผู้ให้บริการมือถือในปัจจุบัน นอกจากนี้ลูกค้าเป้าหมายจะต้องเปลี่ยนไปใช้เครื่องมือถือที่รองรับ 4G ด้วย ซึ่งปัจจุบันเครื่องที่รองรับ 4G ยังมีไม่มากนัก
ส่วนธุรกิจหลัก คือ บรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต ของ JAS ดูไม่สดใสในระยะยาว เพราะการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มีแนวโน้มจะหันมาใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือมากกว่าบรอดแบนด์และการแข่งขันมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น หลังมีคู่แข่งรายใหม่อย่าง ADVANC ที่จะเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ตั้งแต่ต้นปี 58 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งจะเร็วกว่า 4G แม้ระยะสั้นจะยังไม่มีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรม แต่เชื่อว่าในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการรายเดิมทุกรายรวมทั้ง JAS เอง ก็มีโอกาสที่จะสูญเสียฐานลูกค้าบางส่วนไป เพราะปัจจุบันยังใช้เทคโนโลยีที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ดี เนื้อหาในบทวิเคราะห์ดังกล่าว เป็นเพียงการคาดการณ์ของฝ่ายวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด โดยการวิเคราะห์หลักทรัพย์นี้อาจจะมีผลไปในทิศทางเดียวกันหรือตรงกันข้ามกับหลักทรัพย์ที่ทำการวิเคราะห์ก็ได้ ดังนั้น นักลงทุนควรใช้ วิจารณญาณในการลงทุน
อนึ่ง ราคาปิดวานนี้ (16 เม.ย.) อยู่ที่ 5.55 บาท ปรับตัวขึ้น 0.05 บาทหรือ 0.91% มูลค่าการซื้อขาย 643.94 ล้านบาท