SET ไซด์เวย์ ชู 11 หุ้นเด็ด ผลดำเนินงานเติบโตสูง
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนยังอยู่ในภาวะของการระมัดระวังการลงทุน และรอดูพัฒนาการทางการเมืองในต่างประเทศ การลงทุนแนะนำกลุ่มที่มีผลประกอบการดีเป็นหลัก
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.53 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วง เนื่องจากนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในสหรัฐและบราซิล นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ขณะที่นักลงทุนยังอยู่ในภาวะของการระมัดระวังการลงทุน และรอดูพัฒนาการทางการเมืองในต่างประเทศ การลงทุนแนะนำกลุ่มที่มีผลประกอบการดีเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก LIT-SAWAD-MTLS-WORK-RS-TOP-ADVANC-MCS-GFPT-BCPG และ THANI และ
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (19 พ.ค.) คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ โดยให้กรอบ 1,540 – 1,552 จุด เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่ชัดเจนที่จะเข้ามากระตุ้นให้ราคาหุ้นขับเคลื่อนไปได้ อีกทั้งยังต้องรอดูพัฒนาการทางการเมืองในสหรัฐฯ
ด้านราคาน้ำมันรีบาวด์เล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยไม่ถึง 0.2% ซึ่งมองว่านักลงทุนยังอยู่ในภาวะของการระมัดระวังการลงทุนอยู่ สำหรับสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และนอกโอเปกในวันที่ 25 พ.ค. และให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 24 พ.ค.นี้
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ว่า SET แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้วานนี้ แต่ไม่ได้ทำให้ความกังวลต่อการ “พักฐาน” ระยะสัปดาห์ที่แนวรับ 1,532 หรือ 1,520 +/- จุด หมดไป ไม่ว่าจะเป็น 1) Valuation สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 2) กำไร 1Q17 น่าผิดหวัง และคาดว่าจะตามมาด้วย downward revision 3) ความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ล่าช้า 4) ความผันผวนของกระแสเงินทุน ก่อน Fed ขึ้นดอกเบี้ยกลางเดือน มิ.ย.นี้ และ 5) รายงาน Pathumwan Corner วันนี้ เห็นว่าค่าความผันผวน (volatility) ของ SET ที่อยู่ในระดับต่ำมากๆ มักจะตามมาด้วยความ “ผันผวน” ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันค่าความผันผวนของ SET ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีทีเดียว
แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโตสูง (Growth plays) ได้แก่ LIT (สินเชื่อเติบโตสูง ออก warrant ปลดล็อกฐานทุน คาดกำไรเติบโตแกร่ง 60% ปีนี้ PE 16 เท่า ยังไม่แพง) SAWAD MTLS WORK “เก็งกำไร” RS (TradeCode ให้ Let Profit Run) แนวต้าน 9.50/10.40 แม้กำไร 1Q17 ต่ำกว่าคาด แต่จะดีขึ้นตั้งแต่ 2Q17 จากทั้งธุรกิจ Digital TV ที่เข้าสู่ระดับ “คุ้มทุน” และธุรกิจ Health & Beauty ที่ยอดขายเร่งตัวขึ้น
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ว่า แม้ตลาดต่างประเทศจะพลิกกลับมาเป็นบวก แต่ความกังวลต่อการเมืองสหรัฐฯและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังมีอยู่ คาดจะทำให้ตลาดหุ้นยังมีความผันผวน และมีโอกาสที่จะลดลงจากวันก่อน กลยุทธ์การลงทุน ตลาดหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยในและนอกประเทศ และขาดปัจจัยหนุนที่จะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด การ rebound ของตลาดดูจะไม่แรงพอที่จะดันดัชนีฯให้เดินหน้าต่อไปได้ไกลนัก ภาพรวมของวันนี้ จึงควรชะลอการลงทุน หรือเลือกลงทุนในเพียงบางตัว ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้ และเก็งกำไรเพียงช่วงสั้นๆ สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น TOP, ADVANC, MTLS, MCS
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ค.) ประเมิน SET มีโอกาส Sideway ในกรอบแคบ 1,540 – 1,550 จุด เพื่อรอผลการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า และการประชุม กนง. ในวันที่ 24 พ.ค. นี้ แนะนำ Selective Buy ในหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดี เช่น GFPT, BCPG, THANI, LIT กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,540 จุด กรณียืนได้แนะนำถือพอร์ต แต่หากยืนไม่ได้แนะนำ Wait & See เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ