เลือกซื้อ 10 หุ้นเด็ด SET ยังขาดปัจจัยบวกหนุน

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังขาดปัจจัยบวกชี้นำทิศทาง ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศยังเป็นลบ การลงทุนยังเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นกลุ่มที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.09 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังขาดปัจจัยบวกชี้นำทิศทาง ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศยังเป็นลบ การลงทุนยังเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นกลุ่มที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ หุ้นเด่นเลือก AOT-MINT-SEAFCO-MTLS-EA-BPP-MTLS-TISCO-WORK และ GFPT

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มิ.ย.) ว่า การปรับลดลงของ SET ในช่วงปลายตลาดวานนี้ เป็นผลจากการ Rebalance พอร์ตตาม MSCI แต่การปรับลดลงต่ำกว่า trailing stop ที่ 1,562 จุด เป็นสัญญาณ “ลบ” ระยะสั้น ประกอบกับ 1) ราคาน้ำม้นดิบปรับลดลงแรง -3% กดดันกลุ่มพลังงาน 2) Valuation ตลาดสูง ขณะที่กำไร 1Q17 ที่น่าผิดหวังนำมาซึ่งการปรับประมาณการกำไรหุ้นหลายๆ ตัวลง และ 3) เศรษฐกิจขยายตัวต่ำ โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน -0.2% y-y และภาคการผลิต -1.7% y-y ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน +3.6% y-y สนับสนุนจากรายได้ภาคการเกษตร +30.9% y-y และยอดขายรถนั้งส่วนบุคคล +23.2% y-y นักท่องเที่ยวเร่งตัวขึ้น +7% y-y

แนะนำ “ซื้อ” AOT  และ MINT  นักท่องเที่ยวเร่งตัวขึ้น +7% y-y ในเดือน เม.ย. และ “ซื้อ” WORK  (TP 73.00 บาท) ต่อเนื่อง มองกำไรเติบโตสูง +255% y-y จากการขึ้นค่าโฆษณา และ utilization rate ดีขึ้น 3) “ซื้อ” SEAFCO  (TP 14.00 บาท)… คาดรถไฟฟ้าสายสีชมพู – เหลือง เริ่มสร้างปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า โดยงานฐานรากจะรับรู้กำไรก่อน ขณะที่คาดการณ์กำไร 2Q17 – 3Q17 เติบโตแข็งแกร่งจากฐานต่ำในปีก่อน

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มิ.ย.) คงมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยบวก ขณะที่ปัจจัยชี้นำจากต่างประเทศยังเป็นลบ อาทิ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ และ ยุโรปปรับตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในบ้านเรา ประกอบกับเช้าวันนี้จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตซึ่งจัดทำโดย Caixin ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.6 (ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนภาคการผลิตจีนชะลอตัว) อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลดลงของดัชนีจะไม่รุนแรงเนื่องจาก 1) แรงขายน่าจะมาจากสถาบันเพียงฝั่งเดียว Fund Flow ต่างชาติไม่น่าจะไหลออกเนื่องจากค่าเงินบาทยังแข็งค่า 2) ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้ากลับมาฟื้นตัว ทำให้แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรงเมื่อคืนที่ผ่านมาดูลดลง

ดังนั้นกลยุทธ์วันนี้เพื่อคอนเฟิร์มถึงความแข็งแกร่งของตลาด ดัชนีจะต้องยืนเหนือระดับ 1,560 จุดให้ได้หากหลุดต่ำกว่าอาจจะต้องรอซื้อกลับบริเวณแนวรับที่ระดับ 1,550 จุด หรือรอซื้อหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่ที่น่าสนใจ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : MTLS (ซื้อ/เป้า 35.00 บาท) ตัวเต็งเข้าคำนวณใน SET 50 รอบใหม่ ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q17 โตต่อเนื่องทั้ง qoq และ yoy จากยอดปล่อยสินเชื่อที่เติบโต และมีการขยายสาขาเพิ่ม

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มิ.ย.) ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ช่วยหนุนตลาด ในวันศุกร์นี้ติดตามรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ย สัปดาห์หน้า 8 มิ.ย. ยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งอังกฤษและการประชุม ECB กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับที่ 1,560 จุด กรณีดัชนี SET ยืนไม่ได้ แนะนำลดพอร์ต เพื่อรอซื้อเก็งกำไรที่บริเวณแนวรับ 1,540 – 1,550 จุด

Back to top button