SET ไซด์เวย์ คัด 14 หุ้นเด็ดเน้นตัว Outperform ตลาด
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังคงผันผวนต่อไป อย่างไรก็ตาม มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศที่ออกมาดี การลงทุนเน้นไปที่กลุ่มพื้นฐานดีและมีแนวโน้ม Outperform ตลาด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.18 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นรับดัชนีดาวโจนส์ S&P 500 และ Nasdaq ซึ่งปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืน หลังมีรายงานว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังคงผันผวนต่อไป อย่างไรก็ตาม มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นจากปัจจัยต่างประเทศที่ออกมาดี การลงทุนเน้นไปที่กลุ่มพื้นฐานดีและมีแนวโน้ม Outperform ตลาด หุ้นเด่นเลือก AOT-WHA-BCH-SCB-KBANK-BBL-KTB-EA-MTLS-BPP-MTLS-TISCO-WORK และ GFPT
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (2 มิ.ย.) ว่า SET วันนี้เคลื่อนไหว Sideways ในกรอบกว้าง 1,554 – 1,575 จุด ต่อไป โดยกลยุทธ์หลักน่าจะอยู่ที่การ “เลือกซื้อ” หุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาด แนะนำกลุ่มหุ้นพื้นฐานดีที่คาดว่าจะถูกเพิ่มใน SET50 ต้นเดือนหน้าอย่าง EA MTLS TISCO รวมถึง WORK ที่มีโอกาสเข้า SET100 (ประกาศรายชื่อประมาณกลางเดือน มิ.ย.)
แนะนำ 1) “ซื้อ” AOT (TP 47.50 บาท) นักท่องเที่ยวเร่งตัว +7% y-y สูงสุดตั้งแต่ ต.ค.16 ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่ประมาณ 7-8 แสนคน/เดือน เพิ่มขึ้นจากช่วงจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ 4-5 แสนคน/เดือน ราคาหุ้นทำ All time high แนวต้านระยะสั้นที 45-45.5 บาท 2) “ซื้อ” WHA (TP 4.0 บาท) คาดกำไร 2Q17 เติบโตดีจาก แนวโน้มโอนที่ดินแปลงใหญ่ 500 ไร่, การขายหุ้น WHAUP ได้เงินมาลดดอกเบี้ย รายได้ธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเพราะไม่มีการหยุดซ่อมของ Gheco1 และกำลังผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มเป็น 470MW สิ้นปีนี้ จากเดิม 350MW หนุนการเติบโตกำไร 40%
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (2 มิ.ย.) ว่า ฝ่ายวิจัยกลับมามีมุมมองเป็นกลางถึงบวก คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี โดยเฉพาะดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและกลุ่มประเทศในยูโรโซน ออกมาเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่กลับมาฟื้นตัว ส่วนปัจจัยในประเทศมีข่าวดีหลัง IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เป็นขยายตัว 3.2% จากเดิม 3% และคาดเติบโตเป็น 3.3% ในปีหน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบในเดือนนี้เป็นผลกระทบจากภัยธรรมชาติไม่ใช่การชะลอการซื้อขายหรือชะลอการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนจึงไม่น่ากังวลและยังไม่ใช่เงินฝืดหรือสัญญาณเตือนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามคาดดัชนีจะยังเพิ่มขึ้นในกรอบจำกัดเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจะยังกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ประกอบกับค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าอาจจะกดดันให้ Fund Flow ไหลออก หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวนใน SET50/100 รอบใหม่จะยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจในปีนี้ SET50 (EA BPP MTLS TISCO) และ SET 100 (WORK GFPT)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BCH (ซื้อ/เป้า 16.00 บาท)คาดปรับเพิ่มค่ารักษาพยาบาลกลุ่มลูกค้าประกันสังคม (ประมาณ 6%) หนุนกำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 7% และ 14% ในปีหน้า
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 มิ.ย.) ว่า ภาวะการซื้อขายเช้านี้ได้แรงหนุนจากดัชนีหุ้นสหรัฐทำจุดสูงสุดใหม่ ส่งผลบวกให้ดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัวโดยมีแนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,570 จุด กลยุทธ์การลงทุน แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร SCB, KBANK, BBL, KTB (+สินเชื่อมีโอกาสฟื้นตัวจากงานประมูลโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ )