Window Dressing ดัน SET ปรับขึ้น จับตากลุ่มกำไร Q2 โตแรง

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังผันผวนในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากสัญญาณเทคนิคยังเป็นบวก หลังจากยืนเหนือ 1,570 จุดได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 2/60 การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 เติบโตดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ราคายัง Laggard อย่างกลุ่มแบงก์ และโรงพยาบาล


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.94 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น รับดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขานิวยอร์ก ได้แสดงความเห็นที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังผันผวนในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากสัญญาณเทคนิคยังเป็นบวก หลังจากยืนเหนือ 1,570 จุดได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 2/60 การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 เติบโตดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ราคายัง Laggard อย่างกลุ่มแบงก์ และโรงพยาบาล

หุ้นเด่นเลือก AMATA, WHA, STEC, DTAC, TISCO, ASIAN, BPP, BR, ORI, EA, MTLS, IHL, SYNTEC, PT, PTT และ PTTEP

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (20 มิ.ย.) คาดว่าจะแกว่ง Sideway up เนื่องจากตลาดฯยังมีโมเมนตัมที่เป็นบวกอยู่ในทางเทคนิคหลังจากยืนเหนือ 1,570 จุดขึ้นไปได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 2/60 โดยคาดว่าหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มโรงพยาบาลน่าจะมีการทำ Window Dressing เนื่องจากยัง Laggard อยู่

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ดัชนีดาวโจนส์ก็ได้ปรับตัวขึ้นแรงถึง 144 จุด ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกให้กับตลาดฯได้ อีกทั้งให้จับตาวันนี้ทาง MSCI จะนำหุ้น A share ของจีน เข้ารวมในการคำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index หรือไม่

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ทางตลาดใหญ่ๆ อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ฮ่องกง จะอยู่ในแดนบวก มีเพียงตลาดของประเทศเล็กที่ติดลบ อย่างตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ติดลบเล็กน้อย สำหรับในทางกราฟทางเทคนิคที่ดี ก็มองกลุ่มขนส่ง, กลุ่มบันเทิง และกลุ่มอาหาร ที่อาจจะปรับขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,572 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มิ.ย.) ว่า ตลาดหุ้นโลกแข็งแกร่ง Dow Jones +0.68% ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ความกังวลเสถียรภาพการเมืองในยุโรปหนุนตลาดหุ้นโลกปรับสูงขึ้นแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยบวก SET วันนี้ คาด sideways up ไปที่ 1,590 +/- จุด…ขณะที่เรายังให้น้ำหนักต่อการ “เลือก” หุ้นมากกว่าดูทิศทางตลาด เนื่องจากยังมอง Upside ตลาดยังจำกัดอยู่ดีในระยะกลาง โดยยังไม่เห็นการปรับประมาณการกำไร SET จาก Consensus อย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงที่ผ่านมา

ยังชอบกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ผลดีจากการพัฒนาพื้นที่ EEC แนะนำ “ซื้อ” AMATA  WHA (การถูกถอดจาก SET50 สิ้นเดือนนี้ เป็นโอกาสในการซื้อ WHA มองกำไร 2Q17 เติบโตแข็งแรง) และ STEC

แนะนำ 1.”ซื้อ” DTAC  (TP 65 บาท) EV/EBITDA 5.5x เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 7.5x และ ADVANC ที่ 9.5x จะลดลงหลังทำสัญญาใช้คลื่นกับ TOT และ 2.”ซื้อ” TISCO (TP 85 บาท) แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ, การซื้อธุรกิจรายย่อยจาก SCBT และแรงกดดันจาก NPL ต่ำ หนุนกำไร +15-13% ปี 2017-18 ขณะที่การถูกเพิ่มใน SET50 สิ้น มิ.ย.หนุน fund flow ระยะสั้น

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (20 มิ.ย.) มีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 คาด SET Index จะเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้วันนี้ตลาดจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแต่ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้วประกอบกับวันนี้ยังมีลุ้นข่าวดีจากการที่ภาครัฐ (ครม.) อาจจะมีมติประกาศใช้มาตรา 44 ในการแก้ปัญหาการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ สปก.ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนและผลการดำเนินงานของ PTT และ PTTEP

นอกจากนี้ยังเชื่อว่านักลงทุนจะหมุนกลุ่มเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา โดยยังเน้นการเก็งกำไรในหุ้นที่ผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี อาทิ (ASIAN BPP BR ORI EA MTLS IHL SYNTEC PT)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : PT(ซื้อเก็งกำไร/ซื้อสะสม) คาดผลประกอบการ 2Q17 เติบโตโดดเด่น จากจำนวนสินค้าคงเหลือที่รอส่งมอบเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 513 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 เทียบกับระดับปกติที่ 250 ล้านบาทต่อไตรมาส ซึ่งคาดว่ากว่า 70% จะทยอยส่งมอบในไตรมาส 2

Back to top button