จัดทัพ 22 บจ.เด็ด SET ผันผวน จับตาหุ้นรับผลดีราคาน้ำมันร่วง

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือน การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ออกมาดีเป็นหลัก และกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.27 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.01 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวน หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ ผันผวนและมีโอกาสปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือน การลงทุนเน้นกลุ่มที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ออกมาดีเป็นหลัก และกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง

หุ้นเด่นเลือก AAV, THAI, DTAC, AMATA, WHA, SEAFCO, STEC TASCO, KBANK, KKP, THAI, RCL, UNIQ, SYNTEC, ASIAN, BPP, BR, ORI, EA MTLS, IHL และ PT

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิ.ย.) แม้การใช้ ม.44 ปลดล็อกการผลิตน้ำมันในแหล่ง S1 แต่มองตลาดรับรู้ไปก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ราคาน้ำมัน Brent อ่อนตัว -1.9% ต่ำสุดตั้งแต่ต้นปีจะกดดันกลุ่มพลังงาน และ SET วันนี้ กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันต่ำ อย่าง AAV และ TASCO มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดระยะสั้น

แนะนำ 1) “ซื้อ” KKP (TP 75 บาท) แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำหนุนดอกเบี้ยในประเทศขึ้นช้า เป็นปัจจัยบวกต่อต้นทุนการเงิน, ไม่มีปัญหาหนี้เสีย, รายได้ FA จากโครงการ Thailand future fund หนุนกำไร 2H17 ขณะที่คาดการณ์ปันผลกลางปี 2 บาท/หุ้น หรือ 2.8% และปันผลทั้งปีสูง 8.5%

2) “ซื้อ” SEAFCO STEC มองงานก่อสร้างทั้งภาครัฐฯ และเอกชนเร่งตัวใน 2H17, Backlog สูง, และ PE ต่ำเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต มองวงจรการเติบโตกำไรจะเริ่มต้นตั้งแต่ 4Q17 (ดูรายงานกลุ่มรับเหมาฯ วันนี้เพิ่ม) และ 3) ยังชอบกลุ่มหุ้น valuation “ถูก” อย่าง DTAC และกลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากการพัฒนา EEC อย่าง AMATA WHA ต่อไป

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางลง หุ้นกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือนกดดันผลประกอบการ 2Q17 หดตัว qoq ส่วนข่าว คสช.เห็นชอบใช้ ม.44 แก้ปัญหาการผลิตปิโตรเลียมบนพื้นที่ สปก.

คาดว่าตลาดรับรู้ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนกลุ่มธนาคาร สื่อสาร ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 น่าจะออกมาหดตัวเช่นกัน ทำให้ทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ยังหมุนกลุ่มเก็งกำไรในหุ้น Mid Small Cap เป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบลดลง (THAI TASCO RCL) หุ้นรับเหมาก่อสร้างภาครัฐและเอกชนเปิดประมูลงานมากขึ้น (STEC UNIQ SYNTEC) และกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี อาทิ (ASIAN BPP BR ORI EA MTLS IHL SYNTEC PT)

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : IHL (ซื้อ/10.50) มีกระแสตอบรับเชิงบวกมากที่สุดจากงาน 10 หุ้น Small Cap พบนักลงทุนสถาบัน และผลประกอบการมี Upside ที่จะถูกปรับขึ้น

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิ.ย.) ยังวาง Filter แนวรับที่ 1,570 จุด กรณียืนได้ ยังประเมินแนวโน้มดัชนียังอยู่ในกรอบ Sideway Up ไปที่ระดับแนวต้าน 1,590 จุด แนะนำเก็งกำไรกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันลง เช่น AAV, THAI ,TASCO/กลุ่มธนาคาร KBANK, KKP (+ สินเชื่อ พ.ค. ขยายตัวดี)

Back to top button