SET ผันผวนในกรอบ เก็งกำไร 23 หุ้นเด่นมีปัจจัยหนุน
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่อง การลงทุนเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นหุ้นรับเหมาก่อสร้าง หรือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.93 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลังราคาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบร่วงลง นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่อง การลงทุนเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นหุ้นรับเหมาก่อสร้าง หรือกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง
หุ้นเด่นเลือก KBANK, KKP, SEAFCO, IVL, THAI, TASCO, RCL, STEC, UNIQ, SYNTEC, ASIAN, BPP, BR, ORI, EA, MTLS, IHL, SYNTEC, PT, AMATA, ROJNA, WHA และ AAV
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 มิ.ย.) งาน Thailand’s big strategic move วันนี้จะเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการพัฒนา EEC อย่าง AMATA WHA ขณะที่ภาพ SET โดยรวมวันนี้ยังมีแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน แนวรับ 1,568 จุด
แนะนำ 1) “ซื้อ” Micro finance และ Leasing มองแรงกดดันเงินเฟ้อต่ำ กดดันดอกเบี้ยต่ำ เป็นผลบวกต่อต้นทุนการเงิน “ซื้อ” KKP (TP 75 บาท ปันผลกลางปี 2.76% กำไร FA เร่งตัวใน 2H17) MTLS (TP 38 บาท เร่งขยายสาขาหนุนสินเชื่อโตแกร่ง ถูกเพิ่มใน SET50 สิ้นเดือนนี้)
2) “ซื้อ” SEAFCO งานฐานรากจะเริ่มรับรู้รายได้ก่อน โดยคาดว่างานลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง – ชมพู จะเริ่มก่อสร้างต้นปีหน้า ขณะที่ยังมีงานภาคเอกชนอย่าง One Bangkok มูลค่า 1.2 แสนล้านบาทรออยู่ คาดการณ์กำไรเติบโต 49-50% ปี 2017-18 ด้วย PE18 ต่ำเพียง 13x แนะนำ “ซื้อ”
3) “ซื้อ” IVL ปรับ TP ขึ้นเป็น 46 บาท มอง Vertical integration เพิ่มสัดส่วนสินค้า high value added และราคา PTA แข็งแกร่งหนุนการเติบโตกำไรเฉลี่ย 17% ในช่วง 3 ปีนี้
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (22 มิ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ หุ้นในกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน คาดเม็ดเงินการลงทุนน่าจะเคลื่อนไหวไปยังกลุ่ม Big Cap อื่นที่แนวโน้มผลประกอบการยังดี อาทิ AOT CPALL และนักลงทุนจะยังเลือกลงทุนหรือ Selective หุ้น Mid Small Cap โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบลดลง (THAI TASCO RCL) หุ้นรับเหมาก่อสร้างภาครัฐและเอกชนเปิดประมูลงานมากขึ้น (STEC UNIQ SYNTEC) และกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q17 จะออกมาดี อาทิ (ASIAN BPP BR ORI EA MTLS IHL SYNTEC PT)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : AAV (ซื้อสะสม /เป้า Consensus 7) โมเมนตัมกับมาเป็นบวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาเป็นบวกในเดือนพ.ค.และยอดนักท่องเที่ยวจากอินเดียที่เพิ่มขึ้น 15% yoy ในรอบ 5 เดือนแรกโดย AAV เป็นเพียงสายการบิน Low Cost เดียวที่มีเที่ยวบินไปอินเดีย นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (22 มิ.ย.) ยังวาง Filter แนวรับที่ 1,570 จุด หากดัชนียังยืนได้แนะนำถือพอร์ต แนะนำซื้อเก็งกำไร AMATA, ROJNA, WHA และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (+ การลงทุนภาครัฐและ EEC)/กลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK, KKP (+ สินเชื่อ พ.ค. ขยายตัวได้ดี)