เคาะ 23 หุ้นร้อน SET ไซด์เวย์รอปัจจัยใหม่หนุน

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน การลงทุนยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นช้าเมื่อเทียบจากช่วงต้นปี และมีโอกาสได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.97 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการอื่นๆ รวมถึงมาตรการปฏิรูปภาษี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน การลงทุนยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นช้าเมื่อเทียบจากช่วงต้นปี และมีโอกาสได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing

หุ้นเด่นเลือก BBL, KBANK, RCL, ASIAN, BPP, BR, ORI, EA, MTLS, IHL, SYNTEC, PT, ECL, AOT, MINT, ERW, STEC, UNIQ, SYNTEC, BDMS GLOBAL, BJC และ CBG

 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (28 มิ.ย.) คาดแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามาสนับสนุน แม้ราคาน้ำมันดิบเมื่อที่ผ่านมาจะรีบาวด์เล็กน้อย แต่เช้านี้ปรับตัวลงไปอีก อย่างไรก็ตามตคาดว่าตลาดจะได้แรงหนุนบางส่วนจากการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 2/60 โดยเฉพาะกับหุ้นที่ยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด

นอกจากนี้ บรรดากองทุนจะต้องมีการทำพอร์ตให้เป็นไปตาม SET50 ที่จะเริ่มใช้ 1 ก.ค.นี้ โดยจะมีหุ้นเข้ามา 6-7 ตัว และมีตัวที่ถูกถอดออกก็อาจจะถูกขายออกไป แต่มองว่ากองทุนก็ได้มีการปรับพอร์ตมาระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยน่าจะอยู่ในสัปดาห์หน้ามากกว่าที่จะมีการคาดการณ์ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารออกมา ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาช่วยหนุนได้ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด (Sideway) ภาพใหญ่อาจจะมีปัจจัยลบจากความล่าช้าในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลทรัมป์ หลังวุฒิสภาประกาศเลื่อนวันลงคะแนนกฏหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ออกไปเป็นสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันยังถูกกดดันจากการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน ECB ที่ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเช่นการลดวงเงิน QE ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องในตลาดการเงินโลกลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดหุ้นบ้านเราจะตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวในกรอบจำกัดเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา SET แทบไม่ปรับขึ้น ขณะที่ Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นบ้านเราถือว่าน้อยที่สุดหากเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน

ยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนเป็น Selective โดยเน้นหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาดี อาทิ ASIAN BPP BR ORI EA MTLS IHL SYNTEC PT และ ECL หุ้นที่มีปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเพิ่มขึ้น อาทิ AOT MINT ERW และหุ้นกลุ่มรับเหมาที่ได้ผลบวกจากการกระตุ้นการลงทุนจากภาครัฐ อาทิ STEC UNIQ และ SYNTEC ส่วนหุ้นที่เป็นเป้าในการทำ Window dressing เลือกหุ้นในกลุ่ม Set 50 ที่ลดลงแรงจากช่วงต้นปีจะเป็นเป้าในการเข้าลงทุน อาทิ BDMS GLOBAL BJC CBG

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : RCL (ซื้อเก็งกำไร/เป้าหมายเท่ากับ BVPS ที่ 10.4 บาท) ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ (SCFI) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 176 จุด เพิ่มขึ้น 50% qoq และ 172% yoy ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี ต้นทุนน้ำมันยังทรงตัว คาดหนุนผลประกอบการ 2Q17 พลิกมีกำไร ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่า Book Value โดยซื้อขายที่ PBV 0.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มเดินเรือในภูมิภาคซึ่งเทรดที่ 1.2 เท่า

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (28 มิ.ย.) วาง Filter แนวรับ 1,575 จุด กรณียืนได้แนะนำถือ โดยวางแนวต้านที่ 1,600 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ BBL, KBANK (+ แนวโน้มสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังคาดขยายตัวจากการลงทุนภาครัฐและสินเชื่อภาคธุรกิจเริ่มขยายตัว)

Back to top button