SET ผันผวน ปัจจัยในประเทศกดดันเปิด 12 หุ้นเด็ด เก็งงบ Q1/58 สวย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.37 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.47 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มวัสดุและพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน มีแรงกดดันเนื่องจากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปหลังการประชุมระหว่างคสช.และนักการเมืองวานนี้ (23 เม.ย.) ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/58 ของกลุ่มธนาคารที่ออกมาไม่เป็นไปตามคาดหวัง ส่งผลให้มีแรงขายจากทั้งกลุ่มสถาบัน และนักลงทุนต่างประเทศซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดัน SET มองกรอบแกว่งตัวระหว่าง 1,540-1,555 จุด

หุ้นเด่นเลือก TOP-PTTGC-SAWAD-KTB-KBANK-THCOM-IFEC-VTE-NUSA-VNG-RCL และ PTTEP

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) ความกังวลต่อการเลื่อนเลือกตั้งออกไปจากการประชุมร่วมระหว่างคสช. นักการเมือง นักวิชาการวานนี้ (23 เม.ย.) ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนจะเป็นปัจจัยกดดันทาง Sentiment มากกว่าพื้นฐาน เนื่องจากกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่สิ้นสุด และจะมีความชัดเจนมากขึ้นภายใน ก.ค.นี้

อีกทั้งการเติบโตเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนไม่ได้ขึ้นกับการเลือกตั้ง แต่ขึ้นกับเสถียรภาพการเมือง การเบิกจ่ายเงินงบประมาณ เศรษฐกิจโลกมากกว่า และสภาพคล่องในประเทศยังอยู่ในระดับสูง จากราคาน้ำมันต่ำ และอุตฯท่องเที่ยวเติบโต

แนะนำ “ซื้อ” TOP และ PTTGC คาดกลับมาทำกำไรในไตรมาสที่ 1/58 และราคาน้ำมันดีดตัวอีกครั้งหนุนโอกาสบันทึกกำไรสต็อกน้ำมันในไตรมาสที่ 2/58 และ “ซื้อ” SAWAD จากกำไรไตรมาส 1/58 เติบโตดีจากปีก่อนจากต้นทุนการเงินลด ฐานเงินกู้สูง กำไรเติบโต 40% ต่อปีในระยะ 1-4 ปีข้างหน้า อีกทั้งได้รับผลดีดอกเบี้ยต่ำ และ XR+XW วันที่ 29 เม.ย58

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) ว่าทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ KGI คาด SET วันศุกร์ฟื้นตัวสั้นๆ ก่อนแกว่งต่อ คาด SET อาจด้อยกว่าหุ้นเอเชียในช่วงสั้นหลังนสพ. เช้านี้ลงข่าวว่าพรรคการเมืองใหญ่ๆ ยอมรับให้เลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปออกไปได้อีกเพื่อให้มีเวลาทบทวนร่วงรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ ประเด็นนี้อาจถูกต่างชาติตีความเป็นลบได้เล็กน้อย (แต่เรายังคงมุมมองเลือกตั้งปี 2559 ตามโรดแม็ป คสช.)

ด้านปัจจัยภายนอกเป็นกลาง ตัวเลขสหรัฐฯ ค่อนข้างอ่อน โดยข้อมูลรับสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด และยอดขายบ้านใหม่มี.ค.ต่ำกว่าคาดถึง 8% แต่ก็ลดมุมมองเฟดขึ้นดอกเบี้ยออกไปเช่นกัน คาดหุ้นพลังงานกลับมาเด่นกว่า SET หลังซาอุฯ กลับมาโจมตีเยเมนอีกครั้งส่งผลให้ราคาน้ำมันรีบาวด์ค่อนข้างแรงเมื่อคืนนี้ ส่วนสัปดาห์หน้ามีปัจจัยสำคัญได้แก่การประชุมเฟดและการประชุม กนง.นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดกนง.ตรึงดอกเบี้ยที่ 1.75% ก่อนปรับลดในกลางปี 58

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน Pari trade:  Long KTB ,Short KBANK และ หุ้นเข้า SET50-SET100 อย่าง THCOM-IFEC

 

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) กลยุทธ์การลงทุนประเด็นการเมือง และปัญหายุโรปยังกดดันตลาดหุ้นโลกรวมถึงไทย กลยุทธ์การลงทุนจึงยังให้ความสำคัญกับหุ้นรายตัวที่มีกำไรเด่นปีนี้ และไตรมาส 1/58 VNG ([email protected]) และ RCL ([email protected]) เป็น Top picks

 

บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) แนวโน้ม SET วันนี้มีโอกาส Sideway ผันผวน มองว่าประเด็นกดดันหลักจะเป็นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/58 ซึ่งตลาดไม่เพียงแต่ผิดหวังกับผลประกอบการกลุ่มธนาคารทำให้มีแรงขายจากทั้งกลุ่มสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศทำให้ดัชนีของกลุ่มธนาคารปรับตัวลง 4% หลังจากประกาศงบออกมา

นอกจากนี้ยังมองว่ามีโอกาสที่จะเห็นผลประกอบการกลุ่ม Non-bank ที่จะประกาศหลังจากนี้จะออกมาไม่สดใสด้วยเช่นกัน โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวช้า ล่าสุดฝ่ายวิจัยภัทรได้ปรับลดคาดการณ์ GDP growth ปี 58 ลงเหลือ 3.3% จาก 3.7% จากการส่งออก การบริโภค และการลงทุนภาครัฐที่ทำได้แย่กว่าคาด ดังนั้นจึงต้องจับตาผลการประชุม กนง. วันที่ 29 เม.ย.นี้ โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะ 10 ปีล่าสุดก็ปรับลงแรงต่อเนื่องจากวันก่อนและทำจุดต่ำสุดในประวัติการเหลือ 2.5% เรามองสะท้อนความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ย

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำชะลอการลงทุนถือเงินสด หรือเลือก Selective Buy ในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว คาดว่า SET แกว่งผันผวนในช่วง Earnings Season โดยหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดี และกำไร ไตรมาสที่ 1/58 มีแนวโน้มเติบโต ราคาหุ้นยังพอประคองตัวได้ (เช่น กลุ่มอาหาร ค้าปลีกและกลุ่มพลังงานบางตัว) สวนการกับการปรับตัวลงของตลาดซึ่งนำโดยหุ้นที่กำไรมีทิศทางอ่อนแอ

Top Daily Pick: PTTEP (มูลค่าเหมาะสม 132 บาท) เห็นสัญญาณฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ คาดไตรมาส 1/58 พลิกกลับมาเป็นกำไรและไม่ต้องรับรู้ผลด้อยค่าสินทรัพย์แบบในไตรมาส 4/57 อีกแล้ว /WORK (มูลค่าเหมาะสม 47 บาท) คาดว่าบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 57 ในระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/58 จะพลิกจากที่ขาดทุนมามีกำไรราว 20 ล้านบาท

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) มุมมองต่อตลาดคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 22 พร้อมประเมินกรอบแกว่งระหว่าง 1,540-1,555 จุด เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติ และสถาบัน น่าจะปรับพอร์ตในส่วนของกลุ่มธนาคารเสร็จสิ้น หลังสิ้นสุดรายงานงบไตรมาส 1/58 ไปตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เพียงแต่ การทำ Sector Rotation ในวันนี้อาจไม่ชัดเจน เพราะเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์

อีกทั้งนักลงทุนทั่วโลกต่างรอดูผลการเจรจาระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้อียูในค่ำวันนี้ และมีแนวโน้มที่จะยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทัน แต่สภาพคล่องทางการเงินของกรีซก็สามารถซื้อเวลาได้ถึงกลางเดือนพ.ค.

สำหรับปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า นอกเหนือจากการเก็งกำไรต่อประมาณการ / ประกาศงบไตรมาส 1/58 ของบริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยแล้ว การประชุม กนง. วันที่ 29 เม.ย. และ เฟด วันที่ 30 เม.ย. เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุม กนง. ทำให้เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว เพื่อรอดูความชัดเจน

เพราะหากพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ย่อมส่งผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อมีความชัดเจนดังกล่าว ต่างชาติจึงจะกลับมาสะสมหุ้นไทยอีกระลอก ขณะที่สถานะ Long ใน SET50 Index Futures ช่วงสั้นมีแนวโน้มที่จะทยอยปิดสถานะเพื่อทำกำไร เปิดไว้ก่อนหน้าตลอด 11 วันทำการ 57,734 สัญญา

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม” เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-

Accumulative Buy: IFEC

Speculative Buy: PTTGC

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 เม.ย.) มุมมองทางเทคนิคดัชนีตลาดปรับลงเมื่อวานนี้เป็นวันที่สองติดต่อกันและปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10 วัน ระยะสั้นภาพตลาดเข้าสู่แนวโน้ม sideway แต่สัญญาณเทคนิคพบว่า SET ยังสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ขณะที่ MACD แสดงค่าเป็นบวกและสูงกว่า signal line ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้นเช่นเดิม และ SET มีโอกาสจะขึ้นไปทดสอบ 1,560 และ 1,580 จุด

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,540-1,560 แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,540-1,560 จุด หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน

หุ้นที่น่าสนใจ VTE และ NUSA