เคาะ 22 หุ้นเด็ด SET ยังไซด์เวย์ในกรอบ
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบต่อเนื่องหลังตลาดไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ด้านทิศทางตลาดต่างประเทศยังไม่สดใสโดยเฉพาะฝั่งยุโรป ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนยังคงจับตาดูผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ที่เหลือ การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโฯ้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 ออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ให้ปันผลดี
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.63 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนลบเมื่อคืน จากกระแสความวิตกว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ อาจไม่สามารถผลักดันกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่เพื่อบังคับใช้แทนกฎหมายฉบับเก่าของรัฐบาลชุดก่อนได้สำเร็จ ซึ่งจะส่งผลให้การผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ให้เกิดความล่าช้า
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ไซด์เวย์ในกรอบต่อเนื่องหลังตลาดไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ด้านทิศทางตลาดต่างประเทศยังไม่สดใสโดยเฉพาะฝั่งยุโรป ขณะที่เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนยังคงจับตาดูผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ที่เหลือ การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มที่แนวโฯ้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 ออกมาดีเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มที่ให้ปันผลดี
หุ้นเด่นเลือก DTAC, BEAUTY, KAMART, SCC, SCCC, ADVANC, LH, QH, KKP, MC, ASIAN, BPP, BR, ORI, EA, MTLS, IHL, SYNTEC, PT, MINT, ERW และ AOT
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (19 ก.ค.) คาดแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามา เช่นเดียวกับตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยช่วงนี้นักลงทุนต่างรอดูการทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของกลุ่มแบงก์ ซึ่งวันพรุ่งนี้จะมีงบฯของ BBL, SCB, KBANK ออกมา ส่วนวันศุกร์นี้เป็นงบฯของ KTB, KKP ที่จะประกาศออกมา
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทั้งในแดนบวกและลบเล็กน้อย รอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยเฉพาะการประชุม ECB ให้จับตาว่าจะมีการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างไรบ้าง ซึ่งรอบนี้คงจะเป็นการให้ความชัดเจนมากขึ้นจากที่ก่อนหน้านี้ได้เคยส่งสัญญาณว่าจะลด QE และจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งถ้า ECB ส่งสัญญาณจะลด QE อาจเป็น Sentiment ไม่ดีต่อตลาด
นอกจากนี้ ในวันที่ 25 – 26 ก.ค.นี้ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งคงก็รอดูสัญญาณการปรับลดขนาดงบดุลของสหรัฐฯ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีนี้ได้เมื่อใด พร้อมให้แนวรับ 1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,577 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ก.ค.) ว่า เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องที่ 33.6 บาท/ดอลลาร์ฯ เช้านี้หลังค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลความล่าช้าของนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายประกันสุขภาพ หรือกฎหมายภาษีใหม่ ส่งผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นส่งออก อย่าง KCE (แม้กำไร 2Q17 จะยังอ่อนแอ แต่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q17 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ประเมินแนวรับ 98.5/95 บาท) และ HANA ขณะที่ภาพ SET ระยะสั้นช่วงประกาศงบ 2Q17 คาด sideways กรอบ 1,568-1,590 จุด เน้น “Selective” ต่อไป
“ซื้อ” DTAC ปรับ TP ขึ้นเป็น 70 บาท มองกลยุทธ์เน้นลูกค้า postpaid ที่มีรายได้ต่อเบอร์สูง เริ่มส่งผลบวกต่อกำไรตั้งแต่ 2Q17 ที่ผ่านมา ขณะที่การเซ็นสัญญาใช้คลื่น 2300MHz กับ TOT ปลายปีนี้ทำให้คลื่นเพียงพอต่อการให้บริการระยะยาว คาดกำไรปี 2018 – 19 ที่ 2 พันล้าน – 1 หมื่นล้านบาท, EV/EBITDA ปี 2017 ที่ 6.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 7.3 เท่า และ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไร 2Q17 ออกมาดี และราคาหุ้น Laggard ตลาดตั้งแต่ต้นปี อย่าง BEAUTY คาดกำไร 2Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 218 ล้านบาท +57% y-y และ 9% q-q และ “ซื้อ” KAMART
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ก.ค.) คาด SET ยังผันผวนในกรอบจำกัด ตามทิศทางตลาดที่ไม่สดใสโดยเฉพาะฝั่งยุโรปที่ร่วงแรงจากความกังวลว่าค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลลบต่อภาคการส่งออก ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวก/ลบใหม่ที่ชัดเจน นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูงบไตรมาส 2/17 ของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่จะประกาศออกมาในช่วงวันที่ 20-21 ก.ค. เบื้องต้นคาดผลประกอบการจะออกมาชะลอตัว qoq จากยอดสินเชื่อที่ชะลอตัว และยังมีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ยังเน้น Selective buy หุ้นที่ปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ 1)กลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/17 จะออกมาดี ASIAN BPP BR ORI EA MTLS IHL SYNTEC PT 2)กลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW และ AOT จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3) กลุ่มที่จ่ายปันผลสูงและมีปันผลระหว่างกาล อาทิ SCC SCCC ADVANC LH QH KKP MC
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : BR (ซื้อ / เป้า 17.50) คาดงบ 2Q17 เติบโตทั้ง qoq และ yoy เนื่องจากรับรู้รายได้จาก VSE ในเนเธอร์แลนด์เต็มไตรมาส และยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์เนื่องจากนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ