ชง 9 หุ้นร้อน SET ไซด์เวย์ต่อ รออ่อนตัวซื้อ

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่ตลาดหุ้นโลกถูกกดดันจากความตึงเครียดการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ การลงทุนเน้นหุ้นรายตัวที่ผลประกอบการดี และรอจังหวะในการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.21 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ส่วนดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว เปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังดัชนีนิกเกอิร่วงลงอย่างหนักวานนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่ตลาดหุ้นโลกถูกกดดันจากความตึงเครียดการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ การลงทุนเน้นหุ้นรายตัวที่ผลประกอบการดี และรอจังหวะในการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก หุ้นเด่นเลือก CPF, ESSO, TOP, SPRC, BEAUTY, SEAFCO, SAWAD, MTLS และ LIT

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (10 ส.ค.) คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบอยู่ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สร้างความกดดันต่อความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น

โดยจากความกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรของสหรัฐฯปรับตัวขึ้น ขณะที่ปัจจุบันหุ้นอยู่ในระดับที่สูงแล้ว และระยะสั้นคงจะไม่ได้เห็นการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นนักลงทุนจึงอาจปรับพอร์ตการลงทุนในระยะสั้นได้ นอกจากนี้มอง 1 เดือนข้างหน้า ตลาดอาจมีความผันผวนได้แถว 1,530 – 1,550 จุด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวได้ตามผลประกอบการที่ออกมาดี และมี Valuation ไม่แพง พร้อมให้ถือเงินสดไว้ 30 – 40% ของพอร์ต เพื่อรอจังหวะในการซื้อหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ นอกประเทศเวลานี้ก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ก็ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และทิศทางผลตอบแทนพันธบัตร พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568 – 1,577 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) ว่า Sentiment ตลาดหุ้นโลกถูกกดดันจากความตึงเครียดการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมองตลาดยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways 1,568 – 1,584 จุด

แนะนำ 1) “ซื้อ” กลุ่มโรงกลั่น ESSO, TOP และ SPRC แม้กำไร 2Q17 จะถูกกดดันจากการขาดทุนสต็อกน้ำมัน แต่คาดการณ์กำไร 3Q17 จะเติบโตแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นสูง US$7-8/bbl และไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (อิงราคาน้ำมันดิบ Brent เฉลี่ยเดือน มิ.ย.ที่ US$46.3/bbl) ทั้งนี้ ESSO มี PE ต่ำ 5.7 เท่า, SPRC ปันผลสูง 9.3% และ TOP กำไรเติบโต 51% ปีนี้ ขณะที่ PE 8.5x ไม่สูง และ Dividend yield 5.3%

และ 2) “ซื้อ” กลุ่มหุ้นกำไรเติบโตแข็งแกร่งอย่าง BEAUTY SEAFCO (TP 17.5 บาท – มี Story บวกจากการประมูลรถไฟทางคู่ช่วง 1 – 2 เดือนนี้, คาดกำไร 2Q17 คาดเติบโตแข็งแกร่ง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง – ชมพู ที่จะเริ่มการก่อสร้างปลายปีนี้-ต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่าลงทุน 2.8 แสนล้านบาท คาดเปิดประมูล 1H18) รวมไปถึง SAWAD MTLS LIT

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค.) ว่า SET วันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,565 – 1,570 จุด แนวต้าน 1,580 – 1,585 จุด แนะนำซื้อ CPF Consensus@ 32, GFPT Consensus@ 21 (+ คาดส่งออกไก่ไทยปีนี้สูงกว่าเป้าหมาย 7.7 แสนตัน โดยตลาดส่งออกญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 26%)

Back to top button