ตลาดกังวลเหตุก่อการร้าย หาจังหวะเก็บของช่วง SET อ่อนตัว

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.33 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.21 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายในกรุงบาร์เซโลนาของสเปน รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลักดันมาตรการทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีโอกาสอ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศจากการเมืองในสหรัฐฯที่ไม่แน่นอน และเหตุก่อการร้ายก่อการร้ายในสเปน แม้ภาพรวมตลาดระยะสั้นอ่อนแอ แต่มองว่าเป็นโอกาสซื้อที่บริเวณแนวรับ โดยเฉพาะกลุ่มที่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังออกมาดี หุ้นเด่นเลือก BCP, PTTGC, TOP, ESSO, SPRC, KKP, SPRC และ LH

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (18 ส.ค.) มีแนวโน้มปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ต่างติดลบกันทั่วหน้าราว 0.3 – 0.4% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถูกต่อต้านมากขึ้น จากที่ผู้บริหารจากภาคธุรกิจได้ลาออกจากตำแหน่งในสภาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งได้ลาออกไปแล้ว 2 คน และมีข่าวลือว่าจะลาออกอีก 1 คน ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ในสภาคองเกรสเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากทั้งภาคธุรกิจและสภาคองเกรสต่างมีความไม่ลงรอยกับ “ทรัมป์” มากขึ้น การทำงานและนโยบายต่างๆ ของ “ทรัมป์” คงจะเดินหน้าไปได้ยากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานนี้ปรับตัวลงแรง ส่วนตลาดบ้านเราคงจะปรับตัวลงไม่มาก เนื่องจากยังมีเรื่องการจ่ายเงินปันผลช่วยหล่อเลี้ยงตลาดอยู่ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ ยังไม่ประกาศจ่ายปันผล พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 – 1,572 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) ว่า ตลาดมีความกังวลเสถียรภาพทางการเมืองทรัมป์ หลังประกาศยุบสภาที่ปรึกษาอย่างสภาฯการผลิต และสภากลยุทธ์ – นโยบายลง ล่าสุดได้รับคะแนนความนิคมต่ำ 34% กดดัน Dow Jones -1.24% เมื่อคืนนี้ รวมไปถึงเหตุก่อการร้ายก่อการร้ายในสเปน จะเป็นปัจจัยกดดัน SET ไปที่แนวรับบริเวณ 1,552 – 1,555 จุด วันนี้ ซึ่งแม้จะทำให้ภาพ Sentiment ตลาดระยะสั้นอ่อนแอ แต่มองเป็นโอกาส “ซื้อ” บริเวณแนวรับ โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไร 2H17 เร่งตัวขึ้นอย่างกลุ่มโรงกลั่น – ปิโตรฯ PTTGC TOP ESSO SPRC แม้ยังชอบ TOP WORK ที่กำไรออกมาดี แต่เนื่องจากราคาหุ้นปรับสูงขึ้นเร็ว ทำให้มีความเสี่ยงจากความ “ผันผวน” ของราคาในระยะสั้น

ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อต่ำ และความเชื่อมั่นการเมืองสหรัฐฯ ลดลงส่งผล Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงต่ำกว่า 2.2% และโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.ลดลงเหลือ 33.6% เท่านั้น และดอกเบี้ยในประเทศต่ำนาน ทำให้กลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ดูน่าสนใจมากขึ้น แนะนำ “ซื้อ” KKP (ปันผล 8.9%) SPRC (ปันผล 9.2%) LH (ปันผล 6.5%) CPNRF (ปันผล 6.1% – ประชุมผู้ถือหุ้น 28 ส.ค.แปลงเป็น REIT)

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) ประเมินดัชนี SET ยังคง Sideway ในกรอบ 1,560 – 1,580 จุด แนะนำเทรดระยะสั้นตามกรอบการลงทุน โดยสัปดาห์หน้ายังต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ แนะนำซื้อหุ้น BCP FV@40 ได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงกลั่นและไฟฟ้าใน Q3 มีแนวโน้มฟื้นตัว