ผลตัดสินคดีจำนำข้าวตัวชี้นำ SET วันนี้!

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ซื้อขายจะเบาบาง และดัชนีจะผันผวนไปตามคำตัดสินคดีรับจำนำข้าว ขณะที่ภาพรวมเป็นการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการแถลงของประธาน Fed และ ECB ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์หน้า


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.33 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการนำของดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่เปิดในแดนบวก จากอานิสงส์การอ่อนค่าลงของสกุลเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงก็เปิดปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ซื้อขายจะเบาบาง และดัชนีจะผันผวนไปตามคำตัดสินคดีรับจำนำข้าว ขณะที่ภาพรวมเป็นการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการแถลงของประธาน Fed และ ECB ซึ่งจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์หน้า หุ้นเด่นเลือก MC, KKP, BANPU, SVI, SAWAD, RJH, MEGA, MINT, MALEE และ INGRS

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (25 ส.ค.) คาดว่าจะแกว่งแคบรอผลคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยในวันนี้ (25 ส.ค.) ก่อน และเมื่อคำพิพากษาฯออกมาแล้ว ตลาดจะผันผวนไปตามคำตัดสิน ซึ่งถ้าออกมาเป็นบวกดัชนีฯคงจะทะลุแนว 1,580 จุดขึ้นไปได้ แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบดัชนีมีโอกาสไหลลงต่ำกว่าระดับ 1,570 จุด อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับบทลงโทษด้วย แต่เชื่อว่าดัชนีไม่น่าจะหลุดแนว 1,560 จุด และมีโอกาสที่จะดีดกลับในระหว่างวันได้ อย่างไรก็ตาม สามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อไปได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ในช่วงรอดูการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24 – 26 ส.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,565 – 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 – 1,585 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) ว่า SET อาจ “ผันผวน” ในระหว่างการอ่านคำตัดสินศาลฯกรณีจำนำข้าวเช้านี้ อย่างไรก็ตาม ยังมองผลของคำตัดสิน เป็น Neutral ต่อตลาด เนื่องจาก 1) คาดว่าเมื่อคำตัดสินออกมา จะมีการยื่นอุธรณ์อยู่ดี และ 2) เสถียรภาพทางการเมืองหลังคำตัดสินฯ ไม่ได้เปลี่ยนไป ขณะที่ถ้อยแถลงของประธาน Fed และ ECB เกี่ยวกับนโยบายการเงินคืนวันศุกร์นี้ ดูเหมือนจะมีน้ำหนักต่อแนวโน้มตลาดหุ้นโลก และ SET ในสัปดาห์หน้ามากกว่า มองกรอบเคลื่อนไหว 1,570-1,585 จุด วันนี้

ทำอะไรดี :1) “ซื้อ” MC (TP 17) แม้ปรับกำไรลง 24 – 21% ในปี 2017 – 18 แต่มองกำไร 2Q17 จะเป็นจุดต่ำสุดและค่อยๆ ฟื้นตัว PE18 ที่ 12.5 เท่า และปันผล 7% ถือว่า “ไม่แพง” มีจังหวะ Rebound ระยะสั้น ด้วยแนวต้าน 15 บาท 2.”ซื้อ” KKP (TP 77) รับปันผลระหว่างกาล 2 บาท/หุ้น หรือ 2.9% จะขึ้น XD 5 ก.ย.นี้ ขณะที่มอง KKP เป็นธนาคารขนาดกลางที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 8.6% ต่อปี มอง PE 9.2 เท่า ปีหน้ามี downside จำกัด และ 3) “ซื้อ” BANPU Upgrade เป้าหมายพื้นฐาน 22 บาท ปรับกำไรขึ้น 51 – 95% ในปี 2017 – 18 ด้วยการเติบโตกำไร 401% ปีนี้, PE 8 เท่า, PBV 1 เท่า, EV/EBITDA 6.7 เท่า และปันผล 8.3% มองเป็น value play ที่น่าสนใจ

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.) คาดการซื้อขายจะเบาบางและผันผวน ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอดุการแถลงของประธานธนาคารกลางทั้งสองแห่ง ที่ส่งผลให้การซื้อขายน้อยลง รวมทั้งการประกาศคำตัดสินคดีจำนำข้าว ที่จะเริ่มขึ้น 9.00 น. จะทำให้นักลงทุนเฉพาะตลาดหุ้นไทยรอคอยผลการตัดสิน และจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยตามคำตัดสินออกมา ซึ่งจะเป็นได้ทั้งบวกและลบ

กลยุทธ์การลงทุน : ภาพรวมเป็นการชะลอการลงทุน ผลของการแถลงของประธาน Fed และ ECB จะมีผลต่อไทยในวันจันทร์ และควรตามผลคดีจำนำข้าวในวันนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากมีผลต่อตลาดวันนี้มากกว่าปัจจัยตัวอื่น  หรือสลับไปเก็งกำไรช่วงสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มผลประกอบการ หรือข่าวเฉพาะตัว ซึ่งจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนจับเป็นประเด็นมาเล่นกันในช่วงนี้

หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ SVI, SAWAD, RJH, MEGA, MINT หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : MALEE, SVI, INGRS

Back to top button