ชง 10 หุ้นร้อน SET พักตัวหลังปรับขึ้นแรง

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้คาดว่าจะพักตัวหลังดีดขึ้นแรง ขณะที่เหตุการณ์คาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลงส่งผลบวกต่อตลาดต่างประเทศ การลงทุนแนะนำหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นเป้าหมายเงินทุนต่างชาติ รวมถึงกลุ่มที่ยัง Laggard และให้ปันผลดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.17 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ มีท่าทีระมัดระวังการใช้ถ้อยคำในการตอบโต้การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้คาดว่าจะพักตัวหลังดีดขึ้นแรง ขณะที่เหตุการณ์คาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลงส่งผลบวกต่อตลาดต่างประเทศ การลงทุนแนะนำหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นเป้าหมายเงินทุนต่างชาติ รวมถึงกลุ่มที่ยัง Laggard และให้ปันผลดี หุ้นเด่นเลือก  PTT, KBANK, AOT, PTTGC, IVL, AMATA, WHA, KKP, MTLS และ MINT

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวานนี้ขึ้นมาแรง ซึ่งเราไม่ได้เห็นวอลุ่มตลาดเกือบแสนล้านมานานแล้ว ส่วนเช้านี้ (30 ส.ค.) คาดว่าจะพักตัวหลังดีดขึ้นแรง ขณะที่เหตุการณ์คาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลง ส่งผลให้ตลาดทางเอเชียเหนือขึ้นมาตอบรับ รวมทั้งตลาดภูมิภาคทิศทางเป็นบวก ส่วนปัจจัยในประเทศเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแรงเห็นได้จากตัวเลขอัตราการขยายตัว (GDP) ล่าสุดเติบโตขึ้นมาก และกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พร้อมให้กรอบการแกว่งตัววันนี้ที่ 1,600 – 1,617 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) ว่า แม้ SET อาจแกว่งตัวบ้างหลังปรับสูงขึ้นแรง 2.4% และตลาดหุ้นโลกกังวลการยิงขีปนาวุธเกาหลีเหนือ แต่จะเป็นโอกาส “ซื้อ” ด้วยมุมมองบวกระยะ 1 – 3 เดือนข้างหน้า แนวต้าน 1,650 จุด จาก 1) การเมือง มีเสถียรภาพ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน + EEC มีความต่อเนื่อง 2) valuation “ไม่แพง” ที่ PE18 14.3 เท่า 3) มองกำไร SET สร้างฐานใหม่ที่ 110 – 120 บาท/หุ้น ในปี 2018 – 19 เทียบกับช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา 75 – 100 บาท/หุ้น ซึ่งจะทำให้เห็นการสร้างฐานใหม่ของ SET

แนะนำกลุ่มหุ้น SET50 มีแนวโน้มเป็น “กลุ่มนำ” ตลาด ต่อไป 1) “ซื้อ” หุ้นใหญ่เป้าหมายเงินทุนต่างชาติ อย่าง PTT, KBANK,  AOT, PTTGC และ IVL ขณะทีมอง MINT เป็น Laggard Play ในกลุ่มโรงแรม 2) “ซื้อ” กลุ่มนิคมฯ แม้เป็นหุ้นขนาดกลาง แต่จะได้ผลดีจากการนำกฎหมาย EEC เข้า ครม.ในอีก 1 – 2 เดือนข้างหน้า ชอบ AMATA และ WHA 3) Bond yield สหรัฐฯ ต่ำ 2.1% เป็นปัจจัยบวกกลุ่ม micro finance และ leasing ชอบ KKP รับปันผล 2.8% กลางปี, MTLS

Back to top button