เคาะ 16 หุ้นเด็ด SET ไซด์เวย์อัพ หุ้นใหญ่นำตลาด

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ ไซด์เวย์ในทิศทางขาขึ้นจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า และทิศทางราคาน้ำมันยังปรับขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมามากอาจมีแรงเทขายทำกำไรระหว่างวัน การลงทุนเน้นกลุ่ม Big Cap ซึ่งมีแนวโน้มเป็นกลุ่มนำตลาดต่อไป รวมถึงกลุ่มที่ให้ปันผลดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.07 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่สี่เมื่อวันศุกร์ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่เหนือระดับ 2,500 จุดเป็นครั้งแรก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ ไซด์เวย์ในทิศทางขาขึ้นจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า และทิศทางราคาน้ำมันยังปรับขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมามากอาจมีแรงเทขายทำกำไรระหว่างวัน การลงทุนเน้นกลุ่ม Big Cap ซึ่งมีแนวโน้มเป็นกลุ่มนำตลาดต่อไป รวมถึงกลุ่มที่ให้ปันผลดี หุ้นเด่นเลือก WHA, AMATA, KCE, HANA, PTT, CPALL, HMPRO, KBANK, BBL, KTB, TMB, SCC, PTTGC, IVL, PSH และ QH

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (18 ก.ย.) คาดว่าจะแกว่ง Sideway up จากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า และทิศทางราคาน้ำมันยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเป็น Upside กับกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/60 อาจจะออกมาดี อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ปรับขึ้นมาพอควรแล้วจึงอาจมีแรงขายทำกำไร ทำให้หุ้นแกว่งระหว่างวันได้ แต่แนวโน้มยังคงซิกแซกขึ้นไปได้อยู่

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยืนในแดนบวก โดยวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 19 – 20 ก.ย.นี้ โดยให้ติดตามประเด็นแผนการปรับลดงบดุลของสหรัฐฯ และเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังคงเดิมหรือเปล่า เนื่องจากมีผลต่อกระแสเงินทุน พร้อมให้แนวรับ 1,655 – 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,670 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ก.ย.) ว่า การ “ปรับพอร์ต” ของ FTSE ปลายสัปดาห์ก่อนส่งผลกระทบต่อ SET “จำกัด” และไม่ได้ทำให้ Momentum เสียหาย สำหรับประเด็นที่ต้องติดตาม 1 – 2 สัปดาห์นี้ได้แก่ 1) ความคืบหน้าพิจารณาร่างกฎหมาย EEC 2) การประชุม FOMC คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.25% แต่จะมีความชัดเจนทำ Balance Sheet normalization มากขึ้น 3) การเลือกตั้งเยอรมนีวันที่ 24 ก.ย.นี้ คาดพรรค CDU ที่ Merkel เป็น “ผู้นำ” จะชนะการเลือกตั้งรอบนี้ คาด SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อไปที่แนวต้าน 1,690

จากประเด็น 1 – 3 ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ คาด 1) กลุ่มนิคมฯ จะยังให้ผลตอบแทนที่ดี ชอบ WHA AMATA 2) ค่าเงินดอลลาร์ฯ อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังประชุม FOMC ชอบ KCE (ราคา Copper ปรับลดลง 6.4% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา) HANA สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (SET50) คาดว่าจะเป็น “กลุ่มนำ” ตลาดต่อไป แนะนำ “ซื้อ” (PTT – valuation ไม่แพงที่ PE ต่ำกว่า 10 เท่า และปันผลสูงกว่า 5%) กลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL) และค้าปลีก (CPALL, HMPRO)

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ก.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ทิศทางนโยบายการเงินยังอยู่ในลักษณะผ่อนลายหนุนการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ โดยวางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,645 – 1,650 จุด และมีแนวโน้ม Sideway Up ไปที่ระดับ 1,680 จุด (Forward P/E 16.7 เท่า) แนะนำซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap เช่น  KTB, TMB, SCC, PTTGC, IVL, PSH และ QH

Back to top button