เปิดเมนู 10 หุ้นเด่น SET พักตัวช่วงอัพไซด์จำกัด

ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มหยุดความร้อนแรงลงหลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุนให้ดัชนีปรับขึ้นในช่วงที่อัพไซด์เหลือน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ การลงทุนแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรไปก่อน และหยุดพักเพื่อรอดูทิศทางตลาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.11 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ พร้อมกับประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีในเดือนต.ค.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ มีแนวโน้มหยุดความร้อนแรงลงหลังปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุนให้ดัชนีปรับขึ้นในช่วงที่อัพไซด์เหลือน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ การลงทุนแนะนำให้แบ่งขายทำกำไรไปก่อน และหยุดพักเพื่อรอดูทิศทางตลาด หุ้นเด่นเลือก MINT, CENTEL, ERW, CPALL, ROBINS, TISCO, KKP, PTT, PTTGC และ HANA

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (21 ก.ย.) มีแนวโน้มหยุดพักก่อนเมื่อขึ้นมาแถว 1,670 จุด เนื่องจากตลาดต่างประเทศทรงตัวเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ไม่ได้มีแนวทางชัดเจน หลังเฟดออกมาตามคาดในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน และจะปรับขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ธ.ค. นี้ นอกจากนี้จะมีการลดการถือครองพันธบัตรลง

ส่วนบ้านเราขณะนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ จึงคิดว่าตลาดจะปรับขึ้นลำบาก เนื่องจากมี Upside จำกัด โดยตลาดบ้านเราได้ปรับขึ้นมาในระดับที่ใกล้เคียงตลาดเพื่อนบ้านแล้ว ดังนั้น หากจะขึ้นไปอีกเหนือเพื่อนบ้านคงต้องมีปัจจัยบวกเข้ามาผลักดันเพิ่มเติม ทั้งนี้ แนะนำว่านักลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ถึงเป้าหมายให้ขายทำกำไรไปก่อน และหยุดพักเพื่อรอดูทิศทางตลาด พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675 จุด

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ย.) ว่า US Bond Yield 10 เร่งตัวขึ้นใกล้ 2.3%, เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น หลัง Fed จะเริ่มลดขนาดสินทรัพย์ US$1 หมื่นล้าน/เดือน ตั้งแต่ ต.ค. นี้ และมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. นี้ แม้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้ลงเหลือ 1.5% (เดิม 1.7%) และปี 2018 ลงเหลือ 1.9% (เดิม 2%) และราคาน้ำมันดิบ Brent +2.1% ทำจุดสูงสุดของปี มองกลุ่มพลังงาน (PTT PTTGC – ผลดีน้ำมันปรับสูงขึ้น), โรงแรม (MINT CENTEL ERW – เข้าสู่ช่วง High Season) และค้าปลีก (CPALL ROBINS – ยอดขายฟื้น) จะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด

1) “ซื้อ” TISCO (TP 90 บาท) และ KKP (TP 77 บาท) ผลดีจากตลาดหุ้นปรับสูงขึ้นผ่านทั้งธุรกิจหลักทรัพย์, บริหารสินทรัพย์ และ IB 2) “ซื้อ” PTT ผลดีจากราคาน้ำมัน Brent ปรับสูงขึ้นทำจุดสูงสุดของปี, ค่าการกลั่นสูง, กำไรสต็อกน้ำมันใน 3Q17 และ Unlock ธุรกิจค้าปลีกผ่านการนำ PTTOR เข้าตลาดปลายปี 2018-ต้นปี 2019 และ 3) “ซื้อ” HANA ความต้องการ Semiconductor โลกฟื้น เงินบาทอ่อนค่า

Back to top button