SET ไซด์เวย์ จับตาผลประชุม กนง. เลือกเล่น 10 หุ้นตัว TOP
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเ …
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.33 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ออกมายืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เกาหลีเหนือ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้แกว่งไซด์เวย์รอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ช่วงบ่าย ขณะรอบเช้ามีโอกาสที่จะแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกโดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานจากรีบาวด์ของราคาน้ำมัน การลงทุนเน้นเก็งกำไรกลุ่มที่ได้ผลดีจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงาน หุ้นเด่นเลือก MTLS, SAWAD, TISCO, KKP, PTT, ESSO, BANPU, TOP, IRPC และ BEAUTY
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (27 ก.ย.) คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยต่างรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของบ้านเรา โดยตลาดฯคาดการณ์ว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้ามี Surprise คือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะทำให้หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ไม่ดี แต่ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงการคลังได้ส่งสัญญาณต้องการให้ลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และทางอินโดนีเซียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้วไป 2 ครั้งภายใน 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางส่วนเก็งว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และได้เข้าไปเล่นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น หาก กนง. ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้มีแรงขายในส่วนนี้ออกมา ทำให้มองว่าหลังจากผลประชุม กนง.ออกมา ตลาดมีโอกาสผันผวนได้
อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงเช้าตลาดฯยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกได้บ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันเช้านี้รีบาวด์ และมองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานปลอดภัยที่จะลงทุนในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นได้ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ และรอดูแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯจะทำได้หรือไม่ หลังจากที่แผนประกันสุขภาพคงจะไม่ผ่านแล้วในปีนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ย.) ว่า การประชุม กนง.วันนี้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ต่อไป และคาดว่าดอกเบี้ยจะต่ำต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี 2018 เป็นปัจจัยบวกต่อ 1) เศรษฐกิจโดยรวมที่จะเริ่มเร่งตัวขึ้น 2) earnings yield gap ที่สูง 4.4% เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 4% 3) Fed ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก 1 ครั้งปีนี้ ไม่น่ากลัว เนื่องจากเศรษฐกิจโตมากกว่าเงินเฟ้อกดดัน… มองหุ้นกลุ่ม Leasing และ Micro Finance จะยังได้ผลดีดอกเบี้ยต่ำนาน…คงเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1,690 จุด ชอบกลุ่มพลังงาน ธนาคาร นิคมฯ ค้าปลีก
1) หุ้นที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำนาน : MTLS (มีโอกาสถูก window dressing) SAWAD TISCO และ KKP (ปันผลสูง 8.5%) 2) ราคาน้ำมันดิบทำ new high ค่าการกลั่นสูง : PTT ESSO BANPU และ 3) “ซื้อ” BEAUTY (TP 17.0) กำไร 3Q17 จะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ขณะที่ภาพระยะยาวนอกจากจะถูกสนับสนุนจากการเติบโตในประเทศผ่าน SSSG และการขยายสาขา ขณะที่การเติบโตในต่างประเทศจะยิ่งเร่งตัวขึ้น คาดกำไรเติบโต 58% ปีนี้ และ 35% ปี 2018
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ก.ย.) วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,660 จุด กรณียืนได้ทิศทางยัง Sideway Up โดยมีแนวต้านที่ 1,680 จุด แนะนำเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, IRPC, ESSO (+ ค่าการกลั่นสิงค์โปร์ยืนเหนือระดับ 8 ดอลลาร์/บาร์เรล, คาด Q3/60มีกำไรจากสต็อค)