เก็งกำไร 9 หุ้นร้อน SET ไซด์เวย์ ลุ้นผ่าน 1,700 จุด
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังมีแนวโน้มไซด์เวย์ และมีแนวโน้มอ่อนตัวจากแรงขายที่แนวต้าน 1,700 จุด ขณะที่ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.33 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากมีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงทดสอบขีปนาวุธในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันก่อตั้งพรรคแรงงานแห่งเกาหลี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ยังมีแนวโน้มไซด์เวย์ และมีแนวโน้มอ่อนตัวจากแรงขายที่แนวต้าน 1,700 จุด ขณะที่ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3 หุ้นเด่นเลือก TISCO, KKP, AMATA, CPALL, BEAUTY, CPN, HMPRO, AOT และ AAV
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (10 ต.ค.) มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ แต่ให้น้ำหนักไปทางอ่อนตัวลงหลังยังไม่ผ่านแนว 1,700 จุด ทำให้นักลงทุนต่างรอปัจจัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3/60 ซึ่งจะเริ่มที่กลุ่มแบงก์ก่อนโดยจะเริ่มในกลางสัปดาห์นี้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบเล็กน้อย โดยแต่ละตลาดฯต่างรอดูการประกาศงบการเงินเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังจับตาการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งมองประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปลายปีนี้ และผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,690 – 1,692 ถัดไปเป็น 1,680 – 1,685 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,700 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ต.ค.) แรงขายที่แนวต้าน 1,700 จุด ไม่ได้ทำให้มุมมอง “บวก” ต่อ SET เสียหาย ยังคงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,740 จุด ต่อไป ล่าสุด Revision Ratio หรืออัตราส่วนระหว่าง การปรับขึ้นของราคาเป้าหมายพื้นฐาน การปรับเป้าหมายหุ้นลง สูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ +21% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มเห็นการปรับประมาณการกำไรขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มนิคมฯ พลังงาน
1.”ซื้อ” กลุ่มธนาคารที่คาดการณ์กำไร 3Q17 และ 4Q17 ได้ผลดีจากแนวโน้มตลาดทุนที่แข็งแกร่ง อย่าง TISCO และ KKP
2.”ซื้อ” AMATA ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 32 บาท มองความคืบหน้ากฎหมาย EEC ภายในสิ้นปีนี้จะเป็นการปลดล็อกมูลค่าที่ดินของ AMATA และแนะนำ “ซื้อ” WHA เป้าหมายพื้นฐาน 4.0 บาท
3.”ซื้อ” กลุ่มค้าปลีกที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวของของ Same Store Sale ตั้งแต่ 3Q17 และต่อเนื่องใน 4Q17 รวมไปถึงกลุ่มที่ได้ผลดีจาก ICAO ปลดธงแดง อย่าง CPALL, BEAUTY, CPN, HMPRO, AOT และ AAV