SET ระยะสั้นยังผันผวน เลือกเก็บ 13 พื้นฐานดี ราคาถูก
ดัชนีหุ้นไทย (SET) ในระยะสั้นยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นโอกาสซื้อจากปัจจัยในประเทศและนอกประเทศที่ยังเป็นบวกมากกว่า การลงทุนเน้นหุ้นกลางและใหญ่ที่พื้นฐานดีแต่ราคาอ่อนตัวลง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.35 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.18 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนที่ผ่านมา ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวได้ดีในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) ในระยะสั้นยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นโอกาสซื้อจากปัจจัยในประเทศและนอกประเทศที่ยังเป็นบวกมากกว่า การลงทุนเน้นหุ้นกลางและใหญ่ที่พื้นฐานดีแต่ราคาอ่อนตัวลง หุ้นเด่นเลือก AMATA, WHA, MINT, BEAUTY, CPALL, HMRPO, PTTGC, ESSO, PTT, THANI, RS, TOP และ PSL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ต.ค.) ว่า SET สามารถกลับมายืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนอีกครั้ง และ TradeCode แสดงสัญญาณ “Let Profit Run” มองความ “ผันผวน” ขณะที่ถ้าพิจารณาภาพทางพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวเศรษฐกิจ, กำไรบริษัทจดทะเบียน, การปรับประมาณการกำไรขึ้นของนักวิเคราะห์, แนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศยังต่ำนาน, และสภาพคล่องตลาดเงินทุนโลกยังสูง แม้ Fed เริ่มลดขนาดสินทรัพย์ตั้งแต่ ต.ค.นี้ ทำให้มองความ “ผันผวน” ที่เกิดขึ้นเป็นโอกาส “ซื้อ” เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,740 จุด ต่อไป
คงมุมมอง “บวก” ต่อ SET ระยะกลาง – ยาว และความ “ผันผวน” ระยะสั้นเป็นโอกาส “ซื้อ” หุ้นเข้าพอร์ต มองแรงซื้อ LTF ปลายปีจะ “จำกัด” downside risk ของตลาด แนะนำ “ซื้อ”
1) หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ พื้นฐานดีที่ราคาเหวึ่ยงลงจากธุรกรรม Block Trade หรือกำไร 3Q17 แข็งแกร่ง อย่าง AMATA WHA (คาดกฎหมาย EEC ออกภายในสิ้นเดือน พ.ย.) MINT BEAUTY CPALL HMRPO PTTGC และ PTT
2) กลุ่มหุ้นที่ Consensus ปรับประมาณการกำไรขึ้น ชอบ THANI RS TOP และ PSL (non-coverage มองกำไร 3Q17 ฟื้นตัวต่อเนื่อง)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ต.ค.) ประเมินดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบ 1,690 – 1,710 จุด แนะนำเก็งกำไรตามกรอบการลงทุน ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่น เช่น PTTGC, ESSO / กลุ่มนิคม เช่น AMATA, WHA ( + คาดรัฐใช้ ม.44 แก้ไขปัญหาผังเมืองระหว่างรอ พ.ร.บ.EEC จะสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน )