โบรกฯชง 14 หุ้นเด็ด หาจังหวะเก็บของช่วง SET อ่อนตัว
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม มองว่าการแกว่งตัวลงของดัชนีเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจในประเทศเร่งตัวในปีหน้า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.06 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง หลังดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม มองว่าการแกว่งตัวลงของดัชนีเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจในประเทศเร่งตัวในปีหน้า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น หุ้นเด่นเลือก HMPRO, CPALL, CPN, KBANK, TISCO, PTT, BANPU, EA, SUSCO, CPN, PTTGC, AGE, FTE และ AAV
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (10 พ.ย.) คาดว่าจะปรับตัวลง ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกัน เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่ได้ปรับตัวลงกันหมด เนื่องจากความกังวลต่อแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯที่อาจจะเลื่อนการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลไปเป็นปี 62 ทำให้นักลงทุนผิดหวัง จากที่คาดหวังไว้ว่าจะลดในปี 61 ส่งผลให้ดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงไปกว่า 100 จุด แต่ในระหว่างวันร่วงไปราว 200 จุด ซึ่งส่งผลต่อ Sentiment ลบต่อตลาดในยุโรป และตลาดภูมิภาคด้วย
ส่วนบ้านเราก็เจอแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาระลอกใหม่ ทำให้เป็นแรงกดดันตลาดฯ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ก็ชะลอการลงทุนด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,695-1,700 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,680-1,685 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,710-1,715 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) Dow Jones -0.43% หลังสภาสูงส่งสัญญาณชะลอนโยบายลดภาษีเป็นปี2018 จะกดดัน SET ต่อในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่ TradeCode ส่งสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้น ประเมินแรงเหวี่ยงมากกว่าที่คาดเดิมด้วยแนวรับ 1,695 หรือ 1,670 จุด อย่างไรก็ตาม มองการแกว่งตัวลงของ SET เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” หุ้นที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจในประเทศเร่งตัวในปีหน้า, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น อย่าง กลุ่มค้าปลีก, ธนาคาร และพลังงาน ชอบ HMPRO CPALL CPN KBANK TISCO PTT และ BANPU
“ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่กำไร 3Q17 ออกมาดี: 1) BANPU กำไรปกติ 2.9 พันลาน +447% y-y จากราคาถ่านหินแข็งแกร่ง และต้นทุนการผลิตต่ำ มอง valuation “ไม่แพง” ที่ PE18 7.5 เท่า และปันผล 5-6.6% ขณะที่ราคาหุ้นที่ laggard ตลาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะเป็น downside protection ในช่วงการพักฐานของ SET 2) EA กำไร 3Q17 จะเติบโตทั้ง y-y และ q-q จากกำลังการผลิตไฟฟ้าหาดกังหัน 126MW เพิ่ม 3) SUSCO คาดกำไรจะเติบโตทั้ง y-y และ q-q จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น +18% y-y มอง PE18 11.3 เท่า ต่ำกว่า PTG ที่ 19.7 เท่า มาก 4) CPN และ 5) PTTGC
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) วาง Filter แนวรับดัชนี SET ที่ 1,700 จุด ยืนได้ถือพอร์ต แต่กรณีหลุดแนวรับแนะนำลดพอร์ตลง 20% แนะนำซื้อเก็งกำไร AGE, FTE (+ ผลประกอบการ Q3/60 ฟื้นตัวแรง), AAV (+ รับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว)