หุ้นไทยวันแรกเปิดสดใส เช็ค 22 บจ.เด็ดรับมือ SET ปีจอ
ดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตามระหว่างวันอาจมีแรงขายจากกองทุน LTF กดดันให้ดัชนีอ่อนตัว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.45 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.45 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างดีดตัวขึ้นทำนิวไฮ เนื่องจากได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดในปี 2561 รวมข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้มีแนวโน้มปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลดีจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตามระหว่างวันอาจมีแรงขายจากกองทุน LTF กดดันให้ดัชนีอ่อนตัว หุ้นเด่นเลือก BANPU, LANNA, AGE, CPALL, ROBINS, CPN, COL, BBL, TMB, IVL, UVAN, GCAP, ORI, IHL, BCH, EA, PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC, AOT และ MINT
หุ้นเด่นเลือก
นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนของดัชนีหุ้นไทย (3 ม.ค.) มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบจำกัด แต่มีทิศทางเป็นบวก จากตัวเลขเศรษฐกิจของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะอุปสงค์ภายในประเทศของภาคเอกเชนทั้งการบริโภคและการลงทุนที่เร่งตัวขึ้น รวมถึงตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ที่ปรับตัวขึ้น
สำหรับการไถ่ถอนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดในปีนี้คาดว่าจะมีค่อนข้างจำกัด แม้ว่าในปีนี้จะมี LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนราว 45,500 ล้านบาท โดยมีต้นทุนที่ดัชนีระดับกว่า 1,400 จุด ปรับขึ้นราว 24% เมื่อเทียบกับระดับดัชนีในปัจจุบัน แต่ตามสถิติที่ผ่านมาแรงขาย LTF ในช่วงต้นปีจะอยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนภาพรวมการลงทุนต่างประเทศเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในแดนบวก แต่ฝั่งยุโรปอ่อนตัวลง ด้านตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้แกว่งตัวบวกลบในกรอบไม่มากนัก ขณะที่ยังต้องติดตามการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวันสุดท้ายของปี 60 จะกลับเข้ามาซื้อสุทธิกว่า 2,300 ล้านบาทก็ตาม เนื่องจากส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการปรับพอร์ตตามการปรับหุ้นเข้า – ออกในดัชนี SET50 และ SET100 สำหรับการคำนวณช่วงครึ่งปีแรกของปี 61 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับที่สูงยังเป็นบวกต่อการลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,740 จุด และแนวต้านที่ 1,763 – 1,765 จุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ม.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังคงได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทรงตัวระดับสูง เช่น น้ำมัน, ถ่านหิน ขณะที่ตัวเลขภาคการผลิตของทั้งสหรัฐฯ ยุโรปและจีนยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นบวกต่อกระแส Fund Flow ต่างชาติ อย่างก็ตาม อาจต้องระวังแรงขายกอง LTF ที่ครบกำหนดถือ 5 ปี (ปี 2014 ที่ได้ผลตอบแทนราว 10 – 17%) ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,760 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ซื้อเก็งกำไร
- BANPU LANNA AGE ราคาถ่านหินขึ้นทำ High รอบ 13 เดือนล่าสุด 102.65 US/Ton
- กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP IRPC PTTGC IVL) ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT CENTEL MINT SPA ) high season การท่องเที่ยวรวมถึงมาตรการลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวหัวเมืองรอง 55 จังหวัดในปี 2561
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL ROBINS CPN COL) High season การจับจ่ายใช้สอยช่วงคริสมาสต์และปีใหม่
- กลุ่มที่คาดว่ากำไรจะเติบโตโดดเด่นในปี 2018 BBL TMB IVL UVAN GCAP ORI IHL BCH EA
หุ้นแนะนำวันนี้: BANPU (ปิด 19.50 บาท ซื้อ/ราคาพื้นฐาน 22.00 บาท) ราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 13 เดือนที่ระดับ 102.65 US/Ton อีกทั้งคาดกำไร 2017 ที่ 9.2 พันล้านบาท +447% YoY ตามราคาถ่านหินที่พุ่งขึ้น รวมถึง Valuation น่าสนใจค่า P/E 13.4 และ P/BV 1.2 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 2018: ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์ / Top Picks ปีนี้ : AMATA, BBL, BCH, CENTEL, COL, CPALL, IVL, MINT, ORI and TMB
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ม.ค.) วางแนวรับ 1,740 จุด และแนวต้านที่ 1,760 – 1,770 จุด แต่ต้องระวังแรงขายจากกองทุน LTF ที่ครบกำหนดขายได้จากสถิติของมอร์นิ่งสตาร์เฉลี่ยราว 1 หมื่นล้านบาท/ปี แนะนำซื้อกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, PTTGC และกลุ่มท่องเที่ยว AOT, MINT