คัด 5 หุ้นตัวท็อปรับมือ SET ไซด์เวย์ จับตา! แนวต้าน 1,830 จุด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.32 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.92 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ผันผวน บรรยากาศการลงทุนซบเซา หลังดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

ด้าน นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยมองว่ายังมีโมเมนตัมเป็นบวกทำให้ดัชนีฯน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่ก็คงจะยังไม่ผ่านระดับ 1,830 จุด เพราะตลาดฯได้ขึ้นแรงไปแล้วนับจากปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ก็น่าจะปรับฐานบ้าง

ทั้งนี้ช่วงนี้เป็นช่วงทยอยประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ ระยะสั้นมีการเล่นเก็งกำไรกันพอควรแล้ว ดังนั้น ควรรอให้ปรับฐานก่อนค่อยกลับมาซื้อ แม้แต่ตลาดต่างประเทศช่วงนี้ก็เป็นช่วงประกาศงบฯเช่นกัน ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,818-1,810 แนวต้าน 1,827-1,830 จุด

หุ้นเด่นเลือก BBL, CPN, ORI, RSP, TKN

ด้าน นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโมเมนตัมเป็นบวกทำให้ดัชนีฯน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่ก็คงจะยังไม่ผ่านระดับ 1,830 จุด ซึ่งให้ระวังแรงขายทำกำไรที่บริเวณนี้ เนื่องจากตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไปแรงแล้วนับจากปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ซึ่งมองว่าน่าจะปรับฐานบ้าง

ทั้งนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ซึ่งระยะสั้นก็ได้มีการเล่นเก็งกำไรกันมาพอควรแล้ว ดังนั้น ควรรอให้มีการปรับฐานก่อนค่อยกลับมาซื้อ แม้แต่ตลาดต่างประเทศช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมให้แนวรับ 1,818-1,810 จุด ส่วนแนวต้าน 1,827-1,830 จุด

 

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่า ตลาดหุ้นวานนี้ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าคาดนำโดยขนาดใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแรงเก็งกำไรในกลุ่มธนาคารก่อนที่จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 ในสัปดาห์นี้ สถาบันในประเทศยังคงเป็นฝ่ายซื้อสุทธิฝ่ายเดียวถึง 3,751 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1,480 ลบ. (แต่ยัง Net Long ใน Index Futures ถึง 9,535 สัญญา)

สำหรับแนวโน้มตลาดวันนี้คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways โดยเริ่มขาด Sentiment เชิงบวกหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกลุ่มพลังงานยังคงหนุนตลาดจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันขาขึ้น ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในช่วงวันที่ 17-19 ม.ค.นี้ ซึ่งหากออกมาไม่ได้ดีกว่าที่คาด มีโอกาสที่จะถูก Sell On Fact และทำให้ตลาดเกิดการพักฐาน ซึ่งเรามองว่าเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง ขณะที่ระยะสั้นเรามองว่าหุ้นที่คาดมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 แข็งแกร่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการไตรมาส 4/60 แข็งแกร่ง//ทยอยซื้อหุ้นใหญ่คืนในช่วงอ่อนตัว

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, CPN, ORI, RSP, TKN

 

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,830 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ยังคงได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อดักงบและปันผลปี 60 (โดยสัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารจะทยอยประกาศงบ) ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ถ่านหิน)ที่ทรงตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามความกังวล ECB ส่งสัญญาณยุติการใช้ QE หลังเดือนก.ย.หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อปรับตัวตามคาด ซึ่งส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติมีความผันผวนสูง รวมถึงแรงกดดันจากภาวะ Overbought ทางเทคนิค

 

นอกจากนี้ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในทวิเคราะห์ โดยมองดัชนีวันนี้ไซด์เวย์/บวกแคบ ทิศทางหลักยังดีแต่ตลาดน่าจะชะลอความร้อนแรงจากเมื่อวานบ้าง ค่าเงินดอลล่าร์ฯอ่อนค่าต่อหลังธ.กลางยุโรปเตรียมปรับนโยบายดารเงินให้เข้มงวดขึ้นหนุนบาททางตัวแข็ง ส่วนราคาน้ำมันทำนิวไฮรอบ 3 ปีหนุนหุ้นพลังงานต่อ ด้านปัจจัยภายใน ที่ประชุม กรศ.เร่งพรบ.อีอีซีให้ผ่านสนช.ในก.พ.นี้ และเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในโครงการเชื่อมโยงอีอีซีเป็น 6 แสนล้านบาท ขณะที่แรงซื้อนักลงทุนสถาบันยังแข็งแกร่งนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันซื้อสุทธิสะสม 1.19 หมื่นล้านบาท