เกาะติด 13 หุ้นเด็ดน่าลงทุนช่วงประเมิน MSCISET ผันผวน วอลุ่มเบาบาง ก่อนเข้าช่วงหยุดยาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.21 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 32.69 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบ หลังนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ

ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้อาจมีการฟื้นตัวได้ในช่วงสั้น แต่ภาพรวมยังคงผันผวนอยู่ สำหรับปัจจัยภายในประเทศตัวเลขดัชนีบริโภค และลงทุนเดือนเม.ย.ที่จะรายงานในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อภาวะตลาดได้ ขณะเดียวกันการปรับพอร์ตของ MSCI จะทำให้ราคาและมูลค่าของหุ้นรายตัวที่เกี่ยวข้องมีโอกาสผันผวนได้ อีกทั้งเป็นช่วงเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวคาดปริมาณซื้อขายอาจเบาบางลง

หุ้นเด่นเลือก TPCH-MSC-ADVANC-AOT-INTUCH-THANI-LIT-BJCHI-SVI-SAPPE-ITD-VNG-TUF

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.) SET วันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวน ในกรอบ 1,480-1,500 จุด จากการ Rebalance หุ้นใน MSCI วันนี้ โดยหุ้นที่มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน MSCI Thailand ได้แก่ BDMS-CPF-IVL และ MSCI Global Small เพิ่มหุ้น BA-BEAUTY-CBG-EPG-IFEC-MTLS-PLANB-PTG-SIM-SCN-TSE-UNIQ และ WORK ขณะที่หุ้นที่มีการลดน้ำหนักลงทุนได้แก่ PTT-KBANK-SCB-ADVANC-CPALL-PTTEP-AOT-TRUE-JMART และ TPIPL

โดยแนะนำ “ซื้อ” ADVANC และ AOT จากการ Rebalance MSCI โดยการลดน้ำหนักการลงทุนของ ADVANC และ AOT เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” ในช่วงปิดตลาดวันนี้ โดยชอบ ADVANC และ INTUCH จากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5.5-6% ปีนี้ และรับปันผลกลางปี ~2.7-3.0% ขณะที่ได้รับผลดีจากการประมูล 4G ปลายปีนี้มากที่สุด ขณะที่ AOT (XD 1.54 บาท วันนี้) ได้รับผลบวกจากจำนวนผู้โดยสารเติบโตแกร่งปีนี้

 

บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.)กลยุทธ์การลงทุนแนวโน้ม ธปท. ยังคงดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยภาคส่งออก จึงยังคงกลยุทธ์การลงทุนโดยเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว/เงินบาทอ่อนค่า (TUF, VNG, HANA, RCL)เลือก VNG ([email protected]) และ TUF (FV@26) เป็น Top Picks

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้มีช่วงเด้ง ก่อนแกว่งตัวต่อ KGI คาด SET วันนี้เปิดรีบาวด์ก่อนแกว่งผันผวนต่อ คาดหุ้นใหญ่ยังไซด์เวย์ รอปัจจัยภายนอกที่สำคัญเช่น ข้อสรุปต่อปัญหาหนี้สินของกรีซ ก่อนการจ่ายดอกเบี้ยงวดถัดไปให้ IMF 5 มิ.ย. ล่าสุดยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน อีกทั้งสหรัฐรายงาน GDP ไตรมาส 1/58 ครั้งที่ 2 คาดลดลง 0.8% แย่กว่ารายงานครั้งแรกที่เพิ่มขึ้น 0.2% หากต่ำคาดจะยิ่งยืดเวลาสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยให้ช้าไปอีก

ด้านปัจจัยภายในตัวเลขดัชนีบริโภค/ลุงทุน เม.ย.ที่จะรายงานบ่ายนี้ อาจส่งผลต่อภาวะตลาดได้ ภาพรวม SET ยังแกว่งตัวและขาดปัจจัยหนุนในภาพใหญ่ จึงคงแนะนำเก็งกำไรเร็วเน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ต่อไปก่อน หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร หุ้นรับอานิสงส์ดอกเบี้ยลง THANI-LIT-BJCHI

 

บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.)ว่ามีมุมมองเชิงลบต่อ SET วันนี้ หลังจากวานนี้ SET กลับมาอ่อนแรงจนหลุด 1,500 จุดอีกครั้ง ประเมิน SET จะพักฐานและมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับเดิมที่ 1,485 จุดในระยะ 1-2 วัน การปรับพอร์ตของ MSCI วันนี้ จะทำให้หุ้นรายตัวที่เกี่ยวข้องมีราคาและมูลค่าซื้อขายผันผวนผิดปกติ ส่วนการเจรจาหนี้กรีซ ไม่มีความคืบหน้ามากนัก แต่รัฐบาลกรีซ พยายามปิดดีลให้ได้ในวันอาทิตย์นี้

สำหรับกระแสเงินทุนใน SET ช่วงนี้ ดูผันผวนไร้ทิศทาง ทำให้ SET ฟื้นตัวบวกอย่างต่อเนื่องได้ยาก โดยกองทุนในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท หลังจากขายสุทธิมาตลอด 3 วันก่อนหน้านี้รวม 4.2 พันล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 726 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้ ซื้อสุทธิมาตลอด 5 วันติดต่อกันรวม 7.3 พันล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุน รอซื้อบริเวณแนวรับ SET ที่ 1,485 จุด หากเด้งขึ้นขายบริเวณ 1,500 จุด Top Daily Pick : SVI (มูลค่าเหมาะสม 5.70 บาท) และ SAPPE (มูลค่าเหมาะสม 36.90 บาท) โดยทั้ง 2 ตัวได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.) มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดแกว่งตัวผันผวนและปรับลงมาทดสอบระดับแนวรับที่ 1,490 จุด วานนี้เป็นครั้งที่สอง รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นยังมองว่า SET มีแกว่งตัวเป็นลักษณะ sideway ที่กรอบ 1,490-1,510 จุด

ขณะที่ candlestick เมื่อวานแสดงภาพทรงตัว SET จะมีโอกาสเกิด technical rebound ในวันนี้ แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,490-1,510 จุด หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ TPCH-MSC

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (29 พ.ค.)ทิศทางตลาดผันผวน แต่คาดอยู่ในกรอบแคบ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังคงถูกกดดันจากปัจจัยเดิมจากต่างประเทศภายใต้ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในกรีซ โดยเฉพาะต่อประเด็นความสามารถในการชำระหนี้ให้กับ IMF ในเดือนมิย. รวม 1,600 ล้านยูโร โดยครบกำหนดงวดแรก 300 ล้านยูโร ในวันที่ 5 มิ.ย.58 อีกทั้งระยะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังล่าสุดประธานเฟดระบุอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 16-17 มิ.ย.58

ด้านปัจจัยในประเทศ เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว คาดปริมาณซื้อขายอาจเบาบางลง ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวมทั้งปัจจัยเดิมที่คาดกดดันอยู่ เช่น ความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่คาดผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่เหมาะที่จะเข้าเก็งกำไรในช่วงนี้

รวมถึงกลุ่มธนาคาร จากประเด็นความกังวล NPL หลัง KTB มีการตั้งสำรองเพิ่ม และประเด็นที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น ที่คาดเป็น Sentiment ลบ ต่อหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ เช่น PDI, MFC, TMB, NEP, MCOT, THAI, PTT, BCP, AOT และ THL หุ้นแนะนำ : ITD