SET มีสัญญาณบวกก่อนรู้ผลประชุม กนง.สอย 22 หุ้น ช่วงที่เหลือของปีโดดเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.10 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.72 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัว ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมุมมองบวกต่อดัชนีหุ้นไทย แม้วานนี้จะมีการพักฐาน ด้านเทคนิคมีสัญญาณขึ้นรอบใหม่ ขณะที่ตลาดจับตาผลการประชุม กนง.พรุ่งนี้ Consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ด้านปัญหาในกรีซเริ่มผ่อนคลายหลังมีการเลื่อนชำระหนี้ การลงทุนเน้นหุ้นเป้าหมายช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มดี และเข้าเก็งกำไรสั้นหากดัชนีอ่อนตัว หุ้นเด่นเลือก SPALI-ITD-TPIPL-WHA-TASCO-KBANK-KTB-BLA-CK-STEC-SEAFCO-AOT-EA-DEMCO-WEH-TUF-VNG-HANA-RCL-IRPC-PLANB และ KC

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) คงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 50 ซึ่ง SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,500 จุดเป็นวันที่ 2 ส่งสัญญาณแกว่งในกรอบแคบในช่วงสั้น เพื่อรอดูผลการประชุมกนง.วันพรุ่งนี้

• หากกนง.คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน คาดเกิด Sell on fact ในกลุ่มธนาคาร กดให้ SET INDEX ซึมตัวลงทดสอบแนว 1,495-1,500 จุด และพร้อมโอกาสฟื้นตัว
• แต่หาก กนง. สร้างความประหลาดใจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps เป็น 1.25% คาดว่ากลุ่มธนาคารจะถูกขายในอัตราเร่งอีกครั้ง กดดันให้ SET INDEX ซึมตัวลงสู่แนว 1,470-1,480 จุด ได้ และแกว่งออกด้านข้างในบริเวณดังกล่าว

และเป็นที่น่าสังเกตว่า เงินทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. นำโดย TAIEX/KOSPI เมื่อ Vanguard ได้เพิ่มตลาดหุ้นจีนเข้าคำนวณในดัชนี ส่งผลให้ต้องลดน้ำหนักในตลาดหุ้นไต้หวันและเกาหลีใต้ลง

อีกทั้งความกังวลต่อความเห็นของเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย. ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติต้องปิดความเสี่ยงจากค่าเงิน เพราะหากเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าในอัตราเร่ง ค่าเงินสกุลอื่นๆ อ่อนค่า

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยที่ต่างชาติขายสุทธิ 2.42 แสนล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2556 จนถึงวานนี้ น่าจะมากเพียงพอและช่วยปิดความเสี่ยงจากแรงขายของต่างชาติในระลอกนี้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากภาพรวมเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัว และ/หรือ รัฐบาล เริ่มเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อาจทำให้ต่างชาติกลับมาให้ความสนใจตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง

ดังนั้นในช่วง 1-2 วันนี้ SET INDEX ยังมี Upside gain เริ่มจำกัด แนวต้าน 1,510-1,515 จุด จะยังไม่ผ่านในช่วงนี้ เนื่องจากขาดแรงส่ง และมูลค่าการซื้อขายที่ยังไม่หนาแน่น แต่แนวรับ 1,498-1,500 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่งเช่นกัน

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย แบบจำกัดวงเงิน ควรพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,510 จุด +/-“ พร้อมเข้าเก็งกำไรรอบสั้น หาก SET INDEX ซึมตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย

Top Pick in Q2/15: ITD/TPIPL/WHA/TASCO

Speculative Buy: SPALI/WHA

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) ว่า การพักฐานของ SET วานนี้ไม่ทำให้มุมมองต่อเป้าหมายการปรับขึ้น ไปที่ 1,520 จุด หรือถัดไปที่ 1,550 +/- จุด เปลี่ยนไป และยังแนะนำ “ซื้อ” ต่อ โดยมองว่าตลาดจะเริ่มหาปัจจัยบวกมากขึ้นหลังกรีซซื้อเวลาชำระหนี้ IMF ออกไปเป็นสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ อย่าง 1) กนง.คงดอกเบี้ยลดแรงกดดัน NIM กลุ่มธนาคาร 2) การทำ Window Dressing สิ้นไตรมาส 2/15 และ 3) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากขึ้น

หุ้นกลุ่มหลักยังชอบกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และประกันชีวิต KBANK KTB และ BLA รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ CK STEC SEAFCO และ AOT แนะนำ “ซื้อ” EA และ DEMCO โดยจากรายงาน EA ล่าสุดเราประเมินการเข้าซื้อหุ้น WEH จากผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 62% จะเป็นการเพิ่มกำไร และมูลค่าให้กับ EA ขณะที่ DEMCO ในฐานะที่ถือหุ้น WEH อยู่ 4% จะได้ประโยชน์จากโครงการของ WEH กลับมาเดินหน้าต่อ

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) ว่า ประเด็นข่าววานนี้ กระทรวงการคลังจะปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วย SME ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ และ KTB เริ่มปล่อยกู้วงเงิน 3 พันล้านบาท ในโครงการบริหารจัดการน้ำและโครงการถนนระยะเร่งด่วน เป็นประเด็นบวกหนุนหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในครึ่งปีหลัง

ขณะที่นักลงทุนรอผลประชุม กนง.ในวันพรุ่งนี้ (Consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5%) กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบการลงทุน

แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น VNG ([email protected]) คาดได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าเงินบาทช่วยหนุนธุรกิจส่งออกแผ่นไม้ปาร์ติเกิ้ล

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) ว่า ตลาดน่าจะให้น้ำหนักต่อการประชุม กนง. พรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่ามีโอกาสลด/ไม่ลดดอกเบี้ย เท่าๆ กัน ขณะที่คาดเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า ยังชื่นชอบหุ้นที่ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า (TUF, VNG, HANA, RCL) หรือหุ้นที่ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจภายนอก วันนี้เลือก IRPC ([email protected]) เป็น Top Pick เนื่องจาก Spread ของ Olefin ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.)คาดการณ์ทางเทคนิค ภาพกราฟของ SET ยังดีดตัวผ่าน MA10 และเมื่อวานนี้ดีดตัวผ่าน MA25 ออกมาเล็กน้อยรวมถึงกราฟ candlestick ส่งสัญญาณขาขึ้นจากสัญญาณ breakout ผ่านแนวต้านที่ 1,513 ดัชนีตลาดยังเป็นทิศทางขึ้นรอบใหม่ที่จะทดสอบระดับ 1,535 จุดเช่นเดิม

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,505-1,535

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร PLANB และ KC