กนง.ชี้ชะตาทิศทางดัชนีหุ้นไทยวันนี้จับตา! 23 หุ้นขยับรับดอกเบี้ยขาลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.14 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.71 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนตัวผันผวนในช่วงเช้านี้ โดยตลาดหุ้นบางแห่งอ่อนแรงลงเนื่องเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ขณะที่ตลาดหุ้นบางแห่งดีดตัวขึ้นตามความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มพลังงาน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ติดตามประเด็นการประชุม กนง. ซึ่งหากลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผลบวกต่อกลุ่มลิสซิ่ง , อสังหาฯ และกลุ่มส่งออก  แต่หากคงอัตราดอกเบี้ย น่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มธนาคาร สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เน้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ TUF, VNG, HANA, RCL, VGI,THANI, LIT, TSR, ASK, PTTGC, TPIPL, AP, LH, LPN, QH, PS, SC, SPALI, TK, SAWAD, MTLS, KTC, และ IRPC

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเด้งขึ้นได้บ้างตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ ยกเว้นตลาดจีนที่ปรับตัวลงภายหลังจากที่ MSCI ยังไม่นำ A-Shares เข้าคำนวนใน MSCI Emerging Market

โดยวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในเรื่องของการปรับอัตราดอกเบี้ยว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตลาดฯอาจได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้น

อย่างไรก็ตามช่วงนี้ปัจจัยหลักยังไม่ค่อยมี การลงทุนคงจะเป็นไปตามข่าวรายวัน-รายสัปดาห์ พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด ส่วแนวต้าน 1,506 จุด

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ประเด็นที่ต้องติดตามวันนี้ คือ การประชุม กนง. ซึ่งหากลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผลบวกต่อกลุ่มลิสซิ่ง , อสังหาฯ และกลุ่มส่งออก  แต่หากคงอัตราดอกเบี้ย น่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มธนาคารเนื่องจากคลายกังวลผลกระทบต่อ NIM และปัจจุบันราคาหุ้น Bank ใหญ่ ซื้อขายที่ระดับค่าเฉลี่ย P/BV ใน Band ต่ำในรอบ 5 ปี  กลยุทธ์การลงทุน  ประเมินดัชนียังปรับในกรอบที่จำกัด โดยมีแนวรับ 1,485  แนวต้าน 1,500 – 1,510 จุด จึงแนะนำ เทรดดิ้งตามกรอบการลงทุน  ระยะกลาง  Wait & See

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ตลาดน่าจะอยู่ในภาวะปรับฐานต่อ จากที่ดัชนีหุ้นไทยมี Expected P/E 15.5 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมของปีนี้ ส่วนโอกาส กนง. ลด/ไม่ลดดอกเบี้ยฯ มีน้ำหนักเท่า ๆ กัน ยังชื่นชอบหุ้นที่ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า (TUF, VNG, HANA, RCL) และยังเลือก IRPC([email protected]) เป็น Top Pick จาก Spread เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หนุนกำไรปกติงวด 2Q58 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ว่า ประเด็นที่ต้องรอลุ้นในวันนี้ คือการประชุม กนง. แม้โพลส์ของนักเศรษฐศาสตร์จะให้น้ำหนักการทรงดอกเบี้ย แต่ก็ยังเปิดโอกาศการลดดอกเบี้ย หากทรงดอกเบี้ย หุ้นกลุ่มธนาคารน่าจะขยับขึ้น แต่หากลดดอกเบี้ย หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก สินเชื่อรายย่อยจะกลับมาคึกคัก ขณะที่หุ้นในกลุ่มธนาคาร น่ายืนๆ หรืออ่อนตัวลงเล็กน้อย มากกว่าที่จะลงลึก เนื่องจากราคาหุ้นทั้งกลุ่มเริ่มน่าสนใจในระดับปัจจุบันโดยเฉพาะ KTB ที่ราคาหุ้นยัง Underperform กว่ากลุ่มและยังเล่นกันที่ราคาต่ำสุดวันนี้ให้แนวรับที่ 1480-1485 และแนวต้านที่ 1500-1505 จุด

แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หากผลการประชุมกนง. ในวันนี้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 อีก 0.25% เหลือ 1.25% ได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเราคาดว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯ (AP LH LPN QH PS SC SPALI), สินเชื่อเช่าซื้อ (ASK TK THANI SAWAD MTLS KTC)

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ รีบาวด์ ก่อนแกว่งรอผลประชุมกนง.ไทย

คาด SET วันนี้เปิดรีบาวด์ ก่อนแว่งตัวรอผลประชุม กนง. 14.30 น. (วานนี้ตลาดลงหนักกว่าคาดมาก) คาดวันนี้หุ้นน้ำมัน SET เด้ง เก็งกำไรสต็อกน้ำมันสหรัฐจะลดลง ส่งผลน้ำมันดีดเกือบ 4% เมื่อคืน ขณะที่แรงขายหุ้น TIPs (ไทย อินโดฯ ฟิลิปปินส์) น่าจะชะลอในช่วงสั้น หลังเช้านี้ ?ฤฆฉณ ประกาศยังไม่นำหุ้นจีนเข้าดัชนี MSCI EMI คาดแรงขายโยกย้ายเงินจากตลาดหุ้น ธฯณญห ไปตลาดเอเชียเหนือจะลดลงชั่วคราว อย่างไรก็ดี การรีบาวด์คงไม่ไกลนัก ภาพใหญ่ยังมีปัจจัยกดดันได้แก่ bond yield ที่ปรับขึ้นทั้งฝั่งสหรัฐ และยุโรป ความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ และปัญหาหนี้กรีซ โดยคืนนนี้จะมีเจรจา 3ฝ่าย กรีซ เยอรมัน ฝร่ังเศส อีกครั้ง แต่มองยังไม่มีข้อมสรุป กว่าจะชัดเจนน่าจะเป็นสุดสัปดาห์ของมิ.ย.การเก็งกำไรยังเน้นหุ้นขนาดกลางมีประเด็นต่อไปเช่นเดิม

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร VGI/ หุ้นได้รับผลดีดอกเบี้ยขาลง THANI,LIT,TSR,ASK

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์( 10 มิ.ย.) คงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 51 ทั้งนี้ SET INDEX ที่ปรับฐานลงวานนี้ ด้วยการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ / สถาบัน / พอร์ตโบรกเกอร์ น่าจะเป็นการปิดความเสี่ยงต่อการประชุม กนง. วันนี้ ดังนั้น หาก

• หากกนง.คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน คาดว่าจะเกิด Technical Rebound หลังกลุ่มธนาคารปรับฐานลงไปในวานนี้ SET INDEX มีโอกาสที่จะกลับมายืนเหนือ 1,500 จุด อีกครั้ง
• แต่หาก กนง. สร้างความประหลาดใจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps เป็น 1.25% คาด SET INDEX จะซึมตัวลงสู่แนว 1,470-1,480 จุด กดดันด้วยกลุ่มธนาคารแต่จะเป็นไปอย่างจำกัด เพราะกลุ่มธนาคารปรับฐานลงไปแล้ววานนี้

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นหลักในเอเชียเกิดใหม่ ระหว่าง ตลาดหุ้นจีน / TAIEX / KOSPI วันนี้ ตลาด TAIEX / KOSPI น่าจะเกิดการฟื้นตัว หลัง MSCI ประกาศไม่เพิ่ม A-Share ของตลาดหุ้นจีนเข้าในการคำนวณรอบนี้ ทำให้แรงขายจากต่างชาติใน TAIEX / KOSPI น่าจะเริ่มชะลอตัวลง จากประเด็นดังกล่าว และอาจเกิด Technical Rebound ได้

ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ยังขาดน้ำหนักเด่นที่ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง SET INDEX จึงกลับมาแกว่งในกรอบอีกครั้งระหว่าง 1,470-1,520 จุด ไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 มิ.ย. เพื่อประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเฉลี่ย 3.0-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน ภาพของความเปราะบางจึงยังคงอยู่กับตลาดหุ้นไทยไปอีกสักพัก

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนที่ขายทำกำไรรอบสั้นไปก่อนหน้านี้ เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ 1,490 จุดหรือต่ำกว่า” เน้นหุ้นที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัวในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ เป็นสำคัญ

Speculative Buy: PTTGC / TPIPL