ปัจจัยใน-นอกประเทศดี SET ฟื้นทดสอบแนวต้านส่งออก-ลิสซิ่ง-แบงก์เด่น หลัง กนง.คงดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน หลังตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่กลุ่มส่งออก, ลิสซิ่ง และแบงก์รับผลดีจากการที่ กนง. ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีข้างต้น และได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.60 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังมีสัญญาณในด้านบวกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนวต้านหลังตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขณะที่กลุ่มส่งออก, ลิสซิ่ง และแบงก์รับผลดีจากการที่ กนง. ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีข้างต้น และได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น หุ้นเด่นเลือก PTTGC-BLA-CK-ITD-TPIPL-WHA-TASCO-KTB-SAMTEL-KBANK-TUF-VNG-HANA-IRPC-PLANB และ SMT
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 มิ.ย.) ขยับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น “กลางถึงบวก” ครั้งแรกในรอบ 52 วันทำการ หลัง กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แกว่งในกรอบแคบ ประเมินผลดังกล่าวลักษณะนี้
- กลุ่มส่งออกที่ขึ้นมาเด่นจากทิศทางค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเผชิญกับแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ขึ้นมาถึง 26.43%ตั้งแต่ต้นปี
- กลุ่มลิสซิ่งที่ขยับขึ้นเด่น จากปัจจัยบวกของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้น เพราะต้นทุนทางการเงินที่ถูกลงจากการลดอัตราดอกเบี้ย อาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรช่วงสั้นเช่นกัน
- กลุ่มธนาคารมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังเผชิญกับแรงกดดันจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากกนง.ถึง 2 ครั้งในเดือนมี.ค.และเม.ย. ซึ่ง กลุ่มนี้ ปรับตัวลง 13.07% นับตั้งแต่ต้นปี
ส่วนกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ช่วงสั้นนี้ เกิดความโดดเด่น จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง หลังกำลังการผลิตน้ำมันจาก Shale Oil ในสหรัฐฯ เริ่มลดลง และ EIA ปรับประมาณการความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ ขึ้น กลายเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มทั้ง 2 อีกทั้ง Valuation ของ 2 กลุ่มค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับภาพรวมของ SET INDEX
อย่างไรก็ตาม Upside gain ของ SET INDEX ในช่วงสั้น ยังคงเป็นไปอย่างจำกัดในความเห็นของ แนวต้าน 1,520 จุด ยังไม่น่าผ่าน เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไม่กลับมายังตลาดหุ้นไทย / ตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ จนกว่าจะเห็นความชัดเจนในการประชุมเฟดวันที่ 15-16 มิ.ย.
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ นักลงทุนที่สะสมหุ้นเป้าหมายในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ถือพอร์ตระยะสั้น เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุด +/-
Top Pick in Q2/15: ITD/TPIPL/WHA/TASCO
Speculative Buy: KBANK/SAMTEL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 มิ.ย.) ว่า SET วันนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อทดสอบแนวต้าน 1,512 จุด และมองเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,550 จุด ด้วยปัจจัยบวกจาก 1) ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โดย Dow Jones +1.33% และตลาดหุ้นยุโรปปรับสูงขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ หลังมีสัญญาณ “บวก” การเจรจาหนี้กรีซ
2) ราคาน้ำมัน Brent ปรับสูงขึ้น +0.82/bbl หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มโรงกลั่นอย่าง PTTGC ที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 2/15 ออกมาดีจากส่วนต่างปิโตรฯ และค่าการกลั่นแข็งแกร่ง รวมไปถึงมีโอกาสบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน (เฉลี่ยน้ำมันดิบ Brent ปลายไตรมาส 1/15 ประมาณ US$56/bbl ขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ US$65/bbl)
3) กลุ่มธนาคาร มีแนวโน้มฟื้นตัวหลัง กนง.คงดอกเบี้ยตามคาดที่ 1.5% แนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB รวมถึง BLA และ 4) โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น ล่าสุด ครม.ยืนยันให้ใช้แนวเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตามเส้นทางเดิมเร่งเปิดประมูล แนะนำ “ซื้อ” CK
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (11 มิ.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแม้ กนง. คง ดอกเบี้ยฯ แต่ยังมีโอกาสลดได้อีกในการประชุมที่เหลืออีก 4 ครั้งในปีนี้ ในสถานการณ์นี้ดีต่อหุ้นแบงก์ซึ่งได้สะท้อนการปรับกำไรก่อนหน้าไปมากแล้ว จึงเลือก KBANK (FV@B270) เป็นTop pick และยังชื่นชอบหุ้น TUF, VNG, HANA และ IRPC ([email protected])
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 มิ.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ภาพกราฟของ SET วานนี้ทรงตัวบน MA10 และยังสูงกว่าระดับแนวรับที่ 1,488 กับ 1,495 รูปกราฟ candlestick ที่เกิดขึ้นในสี่วันนี้ล่าสุดยังแสดงภาพการออกจากช่องแนวโน้มลงเมื่อนับจากวันที่ 22 พ.ค. 2558 การส่งสัญญาณขาขึ้นอาจช้าลงแต่กำลังเริ่มก่อตัวโดยแนวโน้มวันนี้เป็น sideway อีก 1 วัน ตลาดโดยรวมยังเป็นทิศทางขึ้นที่จะทดสอบระดับ 1,535 จุดได้ ถึงแม้วันนี้ผันผวน
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,495-1,505
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร PLANB และ SMT