สะสม 15 หุ้นเด่นมีประเด็นส่งท้ายสัปดาห์SET ขึ้นกรอบจำกัด-ปัจจัยโดยรวมยังดีอยู่

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,505-1,520 จุด พร้อมประเมินว่าภาพรวมSET จะยังไม่ผ่านแนว 1,520 จุด เนื่องจากปัจจัยหนุนระยะสั้นได้หมดลงแล้วแต่ปัจจัยโดยรวมยังดีอยู่ ขณะที่แนะจำตาประเด็นกรีซต่อในสัปดาห์หน้า สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ ITD, TIPCO, KTB, CK, STEC, SEAFCO, KBANK, CPALL , ROBINS, HANA,TRUE, AP, AIT, SAMTELและ BLA


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.64 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ (7.15 น.) Nikkei – Kospi เปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์  แต่โดยภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขานรับข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ขณะเดียวกันเงินเยนที่อ่อนค่ายังช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยานขึ้นด้วย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,505-1,520 จุด พร้อมประเมินว่าภาพรวม SET จะยังไม่ผ่านแนว 1,520 จุด เนื่องจากปัจจัยหนุนระยะสั้นได้หมดลงแล้ว ขณะที่แนะจำตาประเด็นกรีซต่อในสัปดาห์หน้า สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ ITD, TIPCO, KTB, CK, STEC, SEAFCO, KBANK, CPALL , ROBINS, HANA,TRUE, AP, AIT, SAMTELและ BLA

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะยังปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย โดยการขยับตัวขึ้นของดัชนีฯอาจจะชะลอตัวลงจากเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ แต่เรื่องกรีซ จะเห็นได้ว่าทาง IMF ก็ยังไม่สามารถตกลงกับกรีซได้ จากที่ทีมการเจรจาของ IMF ได้มีการถอนตัวออกไป ซึ่งเรื่องของกรีซก็ยังเป็นข่าวที่ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้มีการชะลอตัวลง ทำให้วันนี้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อิงไปในทางบวกเล็กน้อย

พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,525 จุด

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์( 12 มิ.ย.) คงมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยเป็น “กลางถึงบวก” วันที่ 2 แม้ว่า SET INDEX จะยังไม่ผ่านแนว 1,520 จุด ด้วยแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ เพื่อกดไม่ให้ SET50 Index ฟื้นตัวเด่น เพื่อทยอยปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ อีกทั้งวันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ หลัง SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุด ทำให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไร เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสั้นนี้ เราประเมิน SET INDEX แกว่งระหว่าง 1,505-1,520 จุด มูลค่าการซื้อขายดีขึ้นแต่ยังไม่ถึง 5.0 หมื่นล้านบาท

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์หน้า ประเมินว่า SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบ 1,530-1,540 จุดได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ผลการประชุม เฟด วันที่ 16-17 มิ.ย.

  • หากเฟดส่งสัญญาณยังไม่พร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสั้น เพราะยังมีความเสี่ยงในอัตราเงินเฟ้อระยะกลางถึงยาว ส่วนการจ้างงานยังไม่กลับไปสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติ คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบรับในเชิงบวก ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หากเป็นไปตามแนวทางนี้ SET INDEX มีโอกาสขึ้นทดสอบด่านดังกล่าวได้
  • แต่หากเฟด ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ หลังสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มขยับสู่เป้าหมาย 2.0% ในระยะกลางถึงยาว คาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะซึมตัวลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ กดดันราคาน้ำมันดิบทางอ้อม SET INDEX มีโอกาสซึมตัวลงสู่แนว 1,500-1,510 จุด

พร้อมติดตามการประกาศสมาชิกเข้า – ออก จากการคำนวณ SET50 / SET100 / SET HD คาดว่าจะประกาศในต้นสัปดาห์หน้า เป็นจุดที่น่าสนใจเก็งกำไร เช่นเดียวกับการปรับดัชนี FTSE Thailand ณ ราคาปิดวันที่ 19 มิ.ย. เป็นประเด็นเก็งกำไรสัปดาห์หน้า

เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.15 น.) Nikkei – Kospi เปิดบวกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนที่ขายทำกำไรไปบางส่วนแล้ว การย่อตัวของ SET INDEX วันนี้ เปิดโอกาสสะสมหุ้นเป้าหมาย บนประเด็นคาดการณ์หุ้นเข้า SET50 / SET100 หรือมีประเด็นบวกเฉพาะตัว”

Accumulative Buy: ITD / TIPCO

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 มิ.ย.) ว่า SET วันนี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,505-1,520 จุด หลังการประชุมแก้ปัญหาหนี้กรีซไม่คืบหน้าเมื่อคืนนี้ (รอพัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้)

อย่างไรก็ดียังมองเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,550 จุด เหมือนเดิมจาก 1) แนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น ล่าสุดมีประเด็นการปรับ ครม.เพื่อเร่งการลงทุนภาครัฐฯ หนุนเศรษฐกิจเพิ่ม

ประกอบกับการคงดอกเบี้ย กนง.ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาลดแรงกดดันกลุ่มหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ แนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB BLA (คาดว่าจะถูกรวมเข้าไปใน SET50)

รวมไปถึงกลุ่มรับเหมาฯ CK STEC SEAFCO 2) โอกาสในการทำ Window Dressing สิ้นงวด 2Q15 โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับลดลงแรง -10% ตั้งแต่สิ้น มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ KTB -20%,  RS -11.8% (กำไร Bottom out), BANPU -10.3%, SAMART -10% (กำไร Bottom out), KBANK -9%, QH -8.6%,

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (12 มิ.ย.) การที่ กนง. คง ดอกเบี้ยฯ ถือว่าส่งผลดีต่อหุ้น ธ.พ. และกลุ่มประกันชีวิต หลังที่ราคาหุ้นของทั้ง 2 กลุ่ม ได้ปรับตัวลดลงจากผลกระทบของการปรับลดดอกเบี้ยหลายรอบที่ผ่านมา วันนี้จึงเลือก Top picks KBANK(FV@B270) และ BLA([email protected])

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 มิ.ย.) ว่า  ทิศทางตลาดหุ้นไทย คาดแนวโน้มตลาดหุ้นในวันนี้ อาจมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้นเข้ามาในตลาดในช่วงเช้าหลังราคาดีดตัวขึ้นมาแรง แต่การที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกในประเทศมากขึ้น และปัจจัยโดยรวมที่ยังคงดีอยู่ จึงมีแนวโน้มที่ดัชนีฯในวันนี้ จะสามารถปิดในแดนบวกได้ แต่กรอบการเคลื่อนไหวในระหว่างวันจะแคบลงเมื่อเทียบกับหลายวันที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุน ด้วยนักลงทุนที่น่าจะให้น้ำหนักกับปัจจัยในประเทศมากขึ้น หุ้นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ จะมาในแบบ Domestic Play (ธุรกิจที่มีรายได้ในประเทศ) เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมามากและคาดหมายว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะดี อาทิเช่น กลุ่มรับเหมา (ITD)  กลุ่มค้าปลีก (CPALL , ROBINS) 

ขณะที่กลุ่มส่งออก  (HANA) คาดว่าจะได้รับผลบวกจากตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯและผลบวกจากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่คาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจ อาทิ KBANK และ TRUE (ข่าวประมูล 4G)  ปิดท้ายด้วยหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมา AP , AIT , SAMTEL

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์(12 มิ.ย.)ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ บวกกรอบแคบๆทางขึ้นเริ่มจำกัด

คาดดัชนีวันนี้แกว่งขึ้นต่อแต่อัพไซด์เริ่มจำกัด หลังตางชาติยังขายสุทธิและปัจจัยภายนอกที่หนุนการรีบาวด์หมดลงในระยะสั้น ประเด็นข่าวเรื่องกรีซเป็นลบเล็กน้อยหลัง IMF แถลงยุติการเจรจาหนี้สินกับกรีซ ชี้ว่าข้อเสนอของ 2 ฝ่ายนั้นต่างกันเกินไป

สัปดาห์หน้าจึงต้องติดตามจุดยืนของกรีซและเจ้าหนี้ยุโรปต่อ คงมองว่ากรีซจะสรุปดีลใหม่ได้ก่อนเส้นตาย 30 มิ.ย.เพียงเล็กน้อยส่วนฝั่งสหรัฐ จิตวิทยาต่อเศรษฐกิจดีขึ้นหลังตัวเลขค้าปลีก พ.ค.เพิ่มขึ้น 1.2% MoM สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ขณะเดียวก็ส่งผลให้ตลาดปรับมุมมองต่อช่วงเวลาขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ และอาจกดดันหุ้นโลกช่วงก่อนประชุมเฟด 16-17 มิ.ย.นี้ กลยุทธ์ระยะสั้นจึงคงแนะเก็งกำไรเร็ว เน้นหุ้นขนาดกลางเช่นเดิม

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร STA,VGI

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 มิ.ย.) กลยุทธ์การลงทุน  ฝ่ายวิจัยประเมินดัชนีมีแนวรับ 1,505 – 1,510 จุด และมีโอกาส Sideway ขึ้นไปที่แนวต้าน 1,530 จุด แนะนำ เทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบการลงทุน  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร  ITD, STEC, NWR, TPIPL ที่มีโมเมนตัมทางเทคนิคเป็นบวก

Back to top button