SET บ่ายเคลื่อนไหวแดนลบ-วอลุ่มไม่เอื้อซื้อกลุ่มรับเหมารับผลดีโครงการภาครัฐฯ

SET ช่วงเช้าเคลื่อนไหวแดนลบเป็นหลักตามตลาดภูมิภาค หลังเจอปัจจัยลบจากนอกประเทศกดดัน วอลุ่มการเทรดเบาบาง เพื่อรอความชัดเจนในช่วงนี้ บ่ายคาดดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบ วอลุ่มเทรดไม่เอื้อ โบรกให้แนวรับ 1,485 จุด แนวต้าน 1,505-1,510 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (15 มิ.ย.) เคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูหลายชัดเจนต่างๆ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยคงซบเซา วอลุ่มเทรดไม่เอื้อต่อการดีดตัวของดัชนี เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่รอความชัดเจนจากหลายปัจจัยในช่วงนี้ แนะนำซื้อกลุ่มรับเหมาที่ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐ และหุ้นที่คาดว่าจะถูกทำ Window Dressing พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด แนวต้าน 1,505-1,510 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชายยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงดัชนีหุ้นไทยติดลบตลอดช่วงเช้า ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง คาดรับ Sentiment จากนอกประเทศกดดันเป็นหลัก ส่วนปัจจัยในประเทศไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน โดยระดับดัชนี 1,500 จุดเป็นตัวเลขทางจิตวิทยาที่ต้องจับตาดู

ขณะที่ตลาดบ้านเรา วอลุ่มเทรดโดยรวมเบาบาง นักลงทุนชะลอการลงทุนไปก่อนเพื่อรอดูหลายชัดเจนต่างๆ  ขณะที่ปัจจัยนอกประเทศเกิดความกังวลปัญหาของกรีซที่ยังไม่คืบหน้าในการเจรจากรณีการชำระหนี้ที่ใกล้ครบกำหนด คาดจะได้ข้อสรุปช่วงก่อนปลายเดือนนี้ นอกจากนั้น ยังมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 16-17 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยคงซบเซา เนื่องจากวอลุ่มเทรดไม่เอื้อต่อการดีดตัวของดัชนี อาจส่งให้ตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,485 จุด แนวต้าน 1,505-1,510 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 15 มิ.ย. ) SET อ่อนตัวลงมาตั้งแต่เปิดตลาดตามการปรับลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซที่ยังไม่มีข้อสรุป ประเมินแนวรับที่ 1,495 จุด ขณะที่ทางพื้นฐานยังมอง Downside Risk ต่ำกว่า 1,480 จุด จำกัด และแนะนำ “ซื้อ” ในจังหวะที่ SET ย่อยตัวโดยประเมินเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,550 จุด เหมือนเดิม

โดยแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ CK-STEC-SEAFCO ที่ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะถูกทำ Window Dressing SAMART-KBAN-KTB

นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” AOT จากจำนวนผู้โดยสารเติบโตเพิ่มขึ้น 20% ปีนี้ และรายได้ค่าเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นหลักสนามบินดอนเมือง Terminal 2 เปิดให้บริการในไตรมาส 4/15

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ( 15 มิ.ย. ) ภาครวมตลาดเช้านี้ปรับตัวลง ตามตลาดเอเชียที่อยู่ในแดนลบ โดยหุ้นไทยยังถูกต่างชาติเทขายออกมา แต่สถาบันยังช่วยรับไว้ ขณะที่ดัชนีถูกกดดันด้วย CPALL-TRUE-SCC-KBANK-SCB-PTTGC และ TUF โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและสื่อสารถูกเทขายออกมา ส่วนหุ้นพลังงาน PTT ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากนักตามราคาน้ำมันดิบทที่ลดลงเพราะราคาได้สะท้อนข่าวอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินไปแล้ว และมี AOT-PTT พยุงดัชนีขึ้นมา

สำหรับประเด็นข่าวหนี้กรีซที่ลากยาวมาตั้งแต่ต้นปีโดยล่าสุด IMF ประกาศยุติการเจรจาด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันมากในหลายประเด็นซึ่งอาจส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนในที่สุด

ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะขณะนี้ถือว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นระดับที่สมดุลแล้ว นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ที่ 3.7% และช่วง 6 เดือนหลังเศรษฐกิจจะดีขึ้น 

สำหรับแนวโน้มตลาดภาคบ่าย คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,505-1,492 หากไม่สามารถยืนบนแนวรับสำคัญที่ 1,504 จุด มีแนวโน้มปรับตัวลงแนวรับที่ 1,494 จุด อีกครั้ง

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,323.24 ล้านบาท ปิดที่ 7.95 บาท ลดลง 0.20 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 863.02 ล้านบาท ปิดที่ 11.50 บาท ลดลง 0.20 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 804.62 ล้านบาท ปิดที่ 6.20 บาท ลดลง 0.05 บาท

MK มูลค่าการซื้อขาย 738.66 ล้านบาท ปิดที่ 6.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 506.60 ล้านบาท ปิดที่ 19.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button