SET สัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้น ชู 3 หุ้นเด่นรับเต็มประโยชน์ EEC
ภาพการลงทุนสัปดาห์นี้ คาดตลาด “Up” จิตวิทยาการลงทุนโลกโดยรวมมีสัญญาณบวกมากขึ้นหลัง US Bond Yield10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.17%
Weekly outlook : Up แนวต้าน 1,730/1,750 จุด แนวรับ 1,673/1,664 จุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (16 – 20 ต.ค.) ภาพการลงทุนสัปดาห์นี้ คาดตลาด “Up” จิตวิทยาการลงทุนโลกโดยรวมมีสัญญาณบวกมากขึ้นหลัง US Bond Yield10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.17%
หลังพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหมที่ 3.26% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาผสานกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลุด 95 จุด เป็นผลมาจาการส่งสัญญาณของ Trump ต่อ FED ที่มองว่า FED เร่งขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป และกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ในรอบปีที่ผู้นำสหรัฐฯ มักจะส่งสัญญาณแทรกแทรงทางเวลาในช่วงที่ Dollar Index แข็งค่าเกินไปไป คือ เหนือระดับ 95 จุด(ทรัมป์พอใจระดับ Dollar Index 93-91จุด) ประกอบกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 0.1%m-m ต่ำกกว่าตลาดคาด 0.2% m-m ลดแรงกดันต่อตลาด
นอกจากนี้้ Dollar Index มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากประเด็น Brexit ที่มีการส่งสัญญาณว่าทางสหภาพยุโรป และสหราชณาจักรจะสามารถเจรจากันได้ 17 ต.ค. นี้้ (Nomura มองไว้ว่าไม่น่าจะเกินเดือนพ.ย.) คาดจะเกิดแรง Cover กลับของ 2 สกุลเงินที่ Undervalue ทัง้ GBP,EURO แข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นการเมืองอิตาลีที่กดดันค่าเงินยูโรในช่วงก่อนหน้ามีท่าทีผ่อนคลายลง หลังอิตาลีเตรียมเสนอแผนงบประมาณขาดดุลที่ 2.4% 2.1% และ 1.8% ของ GDP ในปี 2018-2021 ให้แก่ EC 15ต.ค.นี้ และ Nomura คาด EC จะพิจารณาประเด็นนี้ในเดือนพ.ย. ซึ่งการเจรจาระหว่างอิตาลีกับทาง EC ในทุกๆครั้งที่ผ่านมามักจะผ่านไปได้ด้วย ทำให้น่าจะได้เห็นความชัดเจนขึ้นในครั้งนี้
ฃึ่งปัจจัยดังกล่าวทั้งหมด กดดันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง หนุนสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นนอกจากนี้ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีสัญญาณบวก หลังทั้งสองประเทศเตรียมเจรจากันนอกรอบก่อนการประชุม G20 ผสานจีนเผยตัวเลขยอดส่งออกจีนไปยังสหรัฐฯที่ 46.7bn เติบโต 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำ ATH ช่วยลดความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนจากผลกระทบด้านสงครามการค้าเป็น Sentiment บวกต่อตลาด EM-Asia และไทยส่วนปัจจัยอื่นๆ คือ 4 โครงการเร่งด่วนภายในโครงการ EEC จะเข้าครม. 16 ต.ค.นี้
กลยุทธ์การลงทุน: คงน้ำหนักหุ้น 75% สัปดาห์นี้เน้นหุ้นได้ประโยชน์จากการลงทุนและ EEC และมักขึ้นไวก่อนเลือกตั้ง (AMATA STEC CK PYLON SC GOLD) ผสานหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว GULF, BGRIM, BWG, GUNKUL, AMANAH ผสานกลุ่มนำดัชนี PTT,PTTEP, BBL, KBANK, ADVANC, TMB, AOT
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ STEC, GUNKUL, PYLON ส่วนสัปดำห์ก่อน STEC,TMB ,SC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -0.82% ดีกว่าดัชนีฯ ที่ให้ผลตอบแทน -1.42%
1) GUNKUL(TP4.46) : ผลประกอบการ 3Q18-4Q18 มีแนวโน้มเร่งตัวจากพลังงานลม
2) STEC(TP32) : กำไรยังเติบโตต่อเนื่องขณะที่แนวโน้มานประมูลภาครัฐเร่งเข้ามา
3) PYLON(TP10) : คาดผลประกอบการ 3Q18-4Q18 เติบโตแบบขั้นบันได