ชู 15 หุ้นเด็ด เน้นกลุ่มราคาลงลึก-Laggardปัญหากรีซจบไม่ลงกดดันดัชนี Sideways

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.05 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.64 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย Sideways ระหว่างรอความชัดเจนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่มองว่าการพักฐานของ SET เป็นโอกาสในการซื้อสะสมอีกครั้ง การลงทุนเน้นกลุ่ม Domestic Play ที่ราคาลงลึกหรือ Laggard หุ้นเด่นเลือก CK-STEC-SEAFCO-PTTGC-SAMART-BLA-AOT-ITD-TPIPL-WHA-TASCO-KBANK-BLA-PDI และ SIM

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มิ.ย.) คงมุมมองต่อการลงทุนวันนี้ “กลางถึงลบ” เป็นวันที่ 2 แน่นอนว่าสถานการณ์กรีซที่ยังไม่คืบหน้า ทำให้จิตวิทยาการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งนักลงทุนทั่วโลกยังต้องการรอดูผลการประชุมเฟดในวันนี้และพรุ่งนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ เฟดอาจอ้างประเด็นเสี่ยงของกรีซ ทำให้เฟดต้องประวิงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่าการประชุมเดือนก.ย.ถึงจะมีน้ำหนักมากพอที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่นั่นอาจต้องติดตามกรณีกรีซเป็นอีกตัวแปร เพราะหากอียูตัดสินใจให้กรีซ ออกมาจากการเป็นสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปแล้ว ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอย่างรวดเร็ว กดดันต่อภาคการส่งออกของสหรัฐฯ และผลที่ตามมาคือ การจ้างงานอาจะชะลอตัว และเงินเฟ้อถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ

เมื่อสถานการณ์ต่างประเทศ เกิดความไม่แน่นอน มูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยย่อมเบาบางมากยิ่งขึ้นเหลือเพียง 3.0 หมื่นล้านบาท/วัน ทำให้เกิดความผันผวนต่อการลงทุน เราประเมินกรอบการแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,490-1,505 จุด หุ้นที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือกเข้า SET50 / SET100 / SET HD ตลท. น่าจะใกล้ประกาศรายชื่อ จะมีความแข็งแกร่งเหนือเฉลี่ยภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ 

ช่วงสั้น แนะนำให้นักลงทุนติดตามการประกาศสมาชิกเข้า-ออก จากการคำนวณ SET50/SET100/SET HD คาดว่าจะประกาศใน 1-2 วันนี้ เป็นจุดที่น่าสนใจเก็งกำไร เช่นเดียวกับการปรับดัชนี FTSE Thailand ณ ราคาปิดวันที่ 19 มิ.ย. เป็นประเด็นเก็งกำไรสัปดาห์หน้า

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนทยอยซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายที่จะมีประเด็นบวกช่วงสั้นนี้ เมื่อ SET INDEX หลุดแนว 1,500 จุดสู่บริเวณ 1,490 จุด +/-”

Top Pick in Q2/15: ITD/TPIPL/WHA/TASCO

Speculative Buy: TPIPL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มิ.ย.) คาด SET เคลื่อนไหว Sideways กรอบ 1,495-1,520 จุด รอความชัดเจน 1) ผลการประชุม FOMC วันที่ 17-18 มิ.ย. 2) การประชุม รมต.คลัง EU วันที่ 18 มิ.ย.เป็นปัจจัยสำคัญ โดยมองการ “พักฐาน” ของ SET เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” สะสมอีกครั้ง เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,550/1,567/1,575 จุด (ดูเพิ่มใน The Technical Story)

เน้นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า อย่าง 1) รับเหมาฯ อย่าง CK STEC SEAFCO ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น 2) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/15 ออกมาดี อย่าง PTTGC 3) หุ้นกำไร Bottom Out ไปแล้วในไตรมาส 1/15 อย่าง SAMART BLA

และ 4) “ซื้อ” AOT คาดผู้โดยสารเติบโต 30% จากปีก่อนในเดือน พ.ค. และเติบโตสูงต่อเนื่องในเดือน มิ.ย. ขณะที่ปีหน้ามีรายได้ค่าเช่าพื้นที่จากดอนเมือง Terminal 2 เพิ่ม ขณะที่ทางเทคนิคดูแนวต้าน 320/333 บาท

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มิ.ย.) คาด Fed จะยืนดอกเบี้ยฯ จนถึงการประชุมรอบถัดไปคือ 16-17 ก.ย. และจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนถึงปลายปีนี้ ส่วนการประชุม EU 18 มิ.ย. นี้ ยังกดดันกรีซ และตลาดหุ้นโลก ระยะสั้นหันมาเน้นหุ้น Domestic Play ที่ราคาลงลึกหรือ Laggard (KBANK, BLA, CK) และเลือก CK ([email protected]) และ KBANK (FV@270) Top picks

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (16 มิ.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ภาพกราฟของ SET เมื่อสัปดาห์ก่อนรวมกับเมื่อวานนี้เป็นแนวโน้ม sideway 6 วันซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวบนเส้น MA10 แต่ภาพใหญ่ของ SET ยังแสดงภาพการออกจากช่องแนวโน้มลง ขณะที่ภาพระยะสั้นๆ รูป candlestick ล่าสุดเมื่อวานนี้อาจทำให้ตลาดแกว่งตัวในวันนี้อีก 1 วันที่กรอบ 1,498-1,508 เรากำลังจับตาดูการเกิดสัญญาณ breakout วันนี้ระหว่างกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ใกล้ที่สุดตามที่กล่าวไว้บรรทัดข้างบนนี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,498-1,508

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ PDI และ SIM