SET บ่ายแกว่งตัวแดนบวกปัจจัยหนุน Flow ไหลกลับ

SET ปิดเช้ายืนแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค ขานรับการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซที่มีสัญญาณเชิงบวก เกาะติดอิหร่านที่กำลังเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก พร้อมคาดบ่ายนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งแถว 1,500 บวก/ลบ หลังมีสัญญาณบวกจาก Flow ดีขึ้น กรอบแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (23 มิ.ย.) ยืนแดนบวกได้ต่อเนื่องจากวานนี้ เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังจากตลาดสหรัฐและตลาดในยุโรปที่ปรับตัวขึ้น จากปัจจัยหนี้กรีซที่มีสัญญาณเชิงบวก และสถานการณ์อิหร่านที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและหุ้นกลุ่มปิโตรฯ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งแถว 1,500 บวกและลบ หลังมีสัญญาณบวกจาก Flow ที่ดีขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติได้ทำ Long ในตลาดฟิวเจอร์สถึง 6,000 สัญญา โดยให้กรอบแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึง ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยืนในแดนบวกได้ต่อเนื่องจากวานนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค สอดคล้องกับตลาดสหรัฐและตลาดในยุโรปที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากรับผลบวกจากการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซที่มีสัญญาณเชิงบวกว่าจะบรรลุผลสำเร็จการในเจรจากับเจ้าหนี้ได้ แต่ต้องติดตามความชัดเจนต่อไป เพราะปัจจัยนี้สำคัญที่สุดในระยะนี้

นอกจากนี้ ต้องติดตามอิหร่านที่กำลังเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับชาติตะวันตกในสัปดาห์นี้ว่าจะบรรลุผลสำเร็จหรือไม่ เพราะหากสำเร็จอาจจะส่งผลลบต่อราคาน้ำมันได้ เนื่องจากคาดว่าอิหร่านจะระบายน้ำมันออกมา

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งแถว 1,500 บวกและลบ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจาก Flow ที่มีสัญญาณดีขึ้นจากที่นักลงทุนต่างชาติได้ทำ Long ในตลาดฟิวเจอร์สถึง 6,000 สัญญา ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน ทำให้หุ้นขนาดใหญ่สามารถยืนได้ในวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 23 มิ.ย. ) ว่า SET ฟื้นตัวจำกัดกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ตอบรับเชิงบวกในการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสซื้อ โดยหุ้นกลุ่มหลักที่แนะนำซื้อต่อเนื่อง ได้แก่หุ้นที่คาดกำไรในไตรมาส 2/58 เติบโตดีอย่าง PTTGC ขณะที่หุ้นกำไร Turnaround  อย่าง BLA สำหรับกลุ่มรับเหมา CK-STEC-SEAFCO รวมถึงหุ้นปันผลสูง อย่าง INTUCH รับปันผลกลางปี 2.8%

ขณะที่ กลุ่มหุ้นที่เป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing อย่าง KBANK-KTB และ SAMART โดยเฉพาะ SAMART ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 41 บาท และระยะสั้นที่ 30-32 บาท ที่นอกจากเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing แล้ว ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และค่อยๆ ฟื้นตัว ส่วนบริษัทลูกอย่าง SAMTEL เตรียมเซ็นสัญญารับงาน APPS มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท เพิ่มภายในสิ้นเดือนนี้

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 972.89 ล้านบาท ปิดที่ 198.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 891.25 ล้านบาท ปิดที่ 21.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 830.00 ล้านบาท ปิดที่ 6.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 724.60 ล้านบาท ปิดที่ 298.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 541.77 ล้านบาท ปิดที่ 358.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button