SET บ่ายเคลื่อนไหวแดนบวกต่อแนะเก็บหุ้นกลุ่มรับเหมา-โรงกลั่น

SET ช่วงเช้าปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตอบรับปัจจัยบวกเรื่องหนี้กรีซ และได้แรงหนุนจากการทำ Windows dressing ก่อนปิดงบ Q2/58 ช่วงบ่ายคาดดัชนีหุ้นไทยยืนแดนบวกต่อ โดยมีแนวรับ 1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (24 มิ.ย.) ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตอบรับปัจจัยบวกเรื่องหนี้กรีซที่จะสามารถตกลงชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงได้แรงหนุนจากการทำ Window dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 2/58

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อ โดยมีแนวรับ 1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มรับเหมา เช่น CK-CKP-STEC-SEAFCO และ TRC ส่วนหุ้นโรงกลั่นเช่น PTTGC-TOP 

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทะการลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยถึง ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ตอบรับปัจจัยเชิงบวกของกรีซที่จะสามารถตกลงชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้กรีซจะไม่ผิดชำระหนี้ตามกำหนด อีกทั้งในวันนี้ยังได้รับแรงหนุนจากการทำ window dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 2/58 เข้ามาหนุนด้วย

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อจากภาคเช้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนเดิม พร้อมให้แนวต้าน 1,520 จุด แนวรับ 1,495 จุด

 

ขณะที่บทวิเคราะห์ช่วงบ่าย (24 มิ.ย.) ระบุว่ากลุ่มรับเหมาเป็นกลุ่มหุ้นที่ Outperform ตลาดในระยะกลางและยาว เนื่องจากการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่อย่างรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วปานกลาง รถไฟฟ้า รวมไปถึงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้าน จะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้อยกับประมาณการเศรษฐกิจของ ธปท.ล่าสุดที่แม้จะปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโดยรวมลงเหลือ 3.0% จากเดิม 3.8%

ขณะที่คาดการณ์การลงทุนภาครัฐ เร่งตัวขึ้นเป็น 16.3% และจะขยายตัวต่อเนื่อง 6% ในปี 59 ทำให้เราแนะนำซื้อหุ้น CK โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 คาดจะออกมาดีจากการบันทึกกำไรพิเศษขายหุ้นไซยบุรี ให้กับ CKP ประมาณ 1.5 พันล้านบาท STEC-SEAFCO ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มรับเหมาขนาดเล็กมีจังหวะเก็งกำไรอย่าง TRC

สำหรับหุ้นโรงกลั่นยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ PTTGC ที่คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 จะออกมาดีและแนะนำเก็งกำไร Laggard Play อย่าง TOP ต่อ

ราคา HDPE, ค่าการกลั่น, และราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 2/58 ส่งผลดีโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีสาย Olefin อย่าง PTTGC ทำให้แม้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นเหนือเป้าหมายพื้นฐานที่ 70 บาท ไปแล้วแต่แนะนำ “Let the Profit Run” ต่อไปที่เป้าหมายทางเทคนิคบริเวณ 76-77 บาท รวมไปถึงเก็งกำไร TOP โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 57 บาท และถัดไปที่ 59.50 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,181.54 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,011.06 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 972.69 ล้านบาท ปิดที่ 303.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 957.13 ล้านบาท ปิดที่ 4.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท

ADVNAC มูลค่าการซื้อขาย 723.11 ล้านบาท ปิดที่ 236.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button