อย่าทำให้คนกลัวด้วยความจริงแค่ครึ่งเดียว

–ตามกระแสโลก–

 

เรื่องคาสิโนในประเทศไทยดูจะกร่อยลงไปอย่างรวดเร็ว หลังท่านนายกฯ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาสะกิด “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ให้อยู่เงียบๆ ไม่ต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกต่อไป พร้อมกับกำชับให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดี

แต่อย่างไรก็ตาม นายกฯ ท่านยังไม่ได้สั่งให้ทำหมันแนวคิดนี้นะ เพราะท่านได้เปรยๆไว้ว่า ต้องการให้มีการศึกษาข้อดีและข้อเสียของการมีบ่อน ให้รู้แจ้งเห็นจริงซะก่อน จากนั้นค่อยมาว่ากัน ว่าจะเอาอย่างไร

ซึ่งแบบนี้ ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยก็ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่ยึดหลักของเหตุและผลในการบริหารจัดการประเทศ ไม่เหมือนกับคนบางกลุ่มที่มักจะจีบปากจีบคอ หยิบยกเรื่องจริยธรรม หรือเรื่องนู้นเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง พร้อมกับแสดงจุดยืนแบบทันทีทันควันโดยไม่ต้องคิด ว่าคาสิโนเป็นสิ่งชั่วร้ายต้องห้ามที่พร้อมจะกัดกินประเทศของเรา

แต่เชื่อเถอะว่า คนพวกนี้มันพูดให้ตัวเองดูดีเท่านั้นเอง!

 

เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา ได้ฟังนักวิชาการท่านหนึ่ง ออกมาวิเคราะห์แบบเชิงลึก ในเรื่องของการจัดตั้งคาสิโน ผ่านทางรายการวิทยุ โดยพอจะสรุปใจความได้ว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตให้มีบ่อนถูกกฎหมายในบ้านเรา คือท่านผู้นี้ก็บอกนะว่า เราต้องไปศึกษาดูงานวิจัยเรื่องผลกระทบต่างๆให้ดีก่อน โดยเฉพาะงานศึกษาของต่างประเทศที่เขามีบ่อนคาสิโนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา

เนื่องจากสหรัฐฯ มีเมืองคาสิโนอยู่หลายแห่งทั่วทั้งประเทศ แต่มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประสบผลสำเร็จ ลุล่วงไปตามเป้าหมาย ซึ่งก็คือ ลาสเวกัส หรือเมืองคาสิโนที่ใหญ่ที่สุด และมีเงินหมุนเวียนมากที่สุดในประเทศ

 

 

ขณะที่เมืองคาสิโนอื่นอย่าง แอตแลนติก ซิตี้ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมา กำลังประสบปัญหาอาชญากรรมล้นเมือง ผู้คนในเมืองต่างฆ่าฟันและจี้ปล้นกันเป็นว่าเล่น โดยปัญหาเหล่านี้ ท่านพูดไว้เหมือนมันเป็นผลมาจากการเล่นพนันทั้งสิ้น

เฮ้อ! ฟังแล้วปวดตับอย่างแรง… อยากรู้จริงๆว่า มาจากงานวิจัยชิ้นไหน ใครหรือสถาบันไหนเป็นผู้จัดทำ หรือว่า นักวิชาการท่านนี้กำลังนำเสนอความคิดตัวเอง แล้วแอบอ้างว่า เป็นผลงานวิจัยของสหรัฐฯ

จะบอกความจริงให้เลยนะว่า แอตแลนติก ซิตี้ ที่กำลังเจอปัญหาอาชญากรรมอยู่ ณ ตอนนี้ เป็นเพราะคาสิโนทั้งหลายมันกำลังจะเจ๊งบ๊ง คาสิโนขนาดใหญ่อย่าง ซีซาร์พาเลซ ก็กำลังโดนฟ้องล้มละลาย สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้เลยคือ การเลย์ออฟ หรือการจ้างให้พนักงานออก ดังนั้น การฆ่าฟัน การจี้ปล้นที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ส่วนมากเกือบร้อยเปอร์เซนต์มันเกิดขึ้นเพราะอัตราการว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่ได้เกิดจากการเล่นพนันจนหมดตัว แล้วไปฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่น

 

อีกหนึ่งข้อเท็จจริงที่สำคัญคือ แอตแลนติก ซิตี้ เป็นเมืองที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูงอยู่แล้ว ในสภาวะปกติ ไม่ต้องรอให้คนมันตกงานมากขึ้น โดยสาเหตุส่วนใหญ่คนมักมองว่า เกิดจากการที่ประชากรส่วนมากที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในเมืองนี้กว่า 75% เป็น แอฟริกัน-อเมริกัน หรือชาวอเมริกันผิวสี ซึ่งมักจะมีเรื่องเกี่ยวโยงกับยาเสพติด และความรุนแรงอยู่เสมอ

อย่างไรก็ดี ต้องขอย้ำไว้ตรงนี้ว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีอคติหรือความคิดแง่ลบต่อชาวผิวสีแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงแค่การนำสถิติที่ผ่านมา มาอ้างอิงเท่านั้น

แต่เอาเถอะ ใครจะ ค้าน หรือ สนับสนุน เรื่องนี้กันอย่างไร มันก็เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะมีความคิดเป็นของตัวเองได้ และก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะสังคมจะได้รับรู้เรื่องราวจากหลากหลายมุมมอง แต่สำคัญว่า ต้องเป็นความคิดของตัวเองจริงๆนะ ไม่ใช่ไปคิดตามคนอื่น เพราะกลัวตัวเองจะแตกต่าง

สำหรับท่านนักวิชาการทั้งหลาย ได้โปรดขอร้องเถอะว่า เวลาที่ท่านจะชี้แจงข้อเท็จจริงใดๆ ขอให้พูดความจริงทั้งหมดออกมา เพื่อสังคมจะได้รับประโยชน์จากความรู้ของท่านได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เหมือนบางท่าน มาทำตัวเป็น “พวกคนดีความจริงครึ่งเดียว” ซึ่งดีแต่นำเสนอข้อมูลแบบบิดเบือน เพื่อชี้นำให้ผู้อื่นคิดเหมือนตน

 

อาชญากรรมใน แอตแลนติก ซิตี้ เกิดขึ้นจากปัญหาคนตกงาน ยาเสพติด และอิทธิพลมืด ไม่ใช่เพราะเล่นไผ่จนหมดตัว!