SET รีบาวด์ช่วงสั้นรับ ปัจจัยบวกตปท.เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น Q2 เด่น-ปันผลสวย

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 34.17 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากวิกฤตหนี้กรีซเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดรีบาวด์ในช่วงสั้น ก่อนผันผวนต่อ โดยมีปัจจัยภายนอกประเทศเป็นบวก หลัง ECB ประกาศขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กรีซอีก 900 ล้านยูโร และที่ประชุม รมว.คลังยุโรปปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 7 พันล้านยูโร ส่งผลให้ธนาคารในกรีซจะเปิดทำการในวันที่ 20 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม SET มี Upside จำกัดในระยะสั้น หลัง GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียนมีความเสี่ยงถูกลดประมาณการต่อจากปัญหาภัยแล้งกระทบกำลังซื้อ

หุ้นเด่นเลือก CK-STEC-SEAFCO-BTS-INTUCH-BEAUTY-AOT-TASCO-ADVANC-SENA-TPCH-SCC-TTA-PSL และ TSR

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.) ว่า SET อ่อนแอกว่าคาด แต่ยังไม่หลุดแนวรับ 1,476/1,470 จุด มองเคลื่อนไหว Sideways Up ต่อไปด้วยแนวต้าน 1,492/1,510 จุด ขณะที่แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ “Selective” หรือ “เลือกซื้อ” โดยมีกลุ่มหุ้นแนะนำ ดังนี้

1) กลุ่มรับเหมาฯ ได้รับผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เร่งตัวขึ้น แนะนำ “ซื้อ” CK STEC (แนวต้าน 24.0/25.0 บาท และเป้าหมายพื้นฐานที่ 29 บาท) SEAFCO และ BTS (รับปันผลกลางปี 0.3 บาท/หุ้น XD 31 ก.ค.นี้ ลงทุนรถไฟฟ้าเพิ่มในอนาคต)

2) กลุ่มหุ้นปันผลสูง แนะนำ “ซื้อ” INTUCH ได้ประโยชน์จากการประมูล 4G มากที่สุด และรับปันผลกลางปี 2.8% TRUEIF

3) กลุ่มท่องเที่ยว แนะนำ “ซื้อ” BEAUTY (แนวต้าน 4.16/4.30 เป็น Indirect Play กลุ่มท่องเที่ยว โดยขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยวในสัดส่วน 20% ของยอดขาย) และ “ซื้อ” AOT (แนวรับ 290 บาท)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ Sideway อยู่ในกรอบ 1,475-1,490 จุด รอลุ้นผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่อาจชะลอตัวน้อยกว่าคาดหรือต่ำกว่าคาด กลยุทธ์ Selective BUY/ ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ

Speculative BUY: TASCO-ADVANC-SENA-TPCH

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.) คาดว่า SET วันศุกร์เปิดรีบาวด์ก่อนผันผวนต่อ ปัจจัยภายนอกเป็นบวกต่อเนื่อง หลัง ECB ประกาศขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กรีซอีก 900 ล้านยูโร และที่ประชุม รมว.คลังยุโรปปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 7 พันล้านยูโร ส่งผลให้ธนาคารในกรีซจะเปิดทำการในวันที่ 20 ก.ค.เป็นต้นไป ส่วนฝั่งสหรัฐ ตลาดหุ้นปรับขึ้นต่อหลังผลประกอบการของ Citigroup และหุ้นหลายตัวในกลุ่มเทคโนฯ แข็งแกร่งกว่าคาด ผนวกตัวเลขขอสวัสดิการว่างงานสหรัฐลดลงมากกว่าคาด

อย่างไรก็ตามยังคงมองว่า SET มี Upside จำกัดในระยะสั้น หลัง GDP และกำไรบจ.มีความเสี่ยงถูกลดประมาณการต่อ จากปัญหาภัยแล้งกระทบกำลังซื้อโดยเฉพาะในต่างจังหวัด จึงคงคำแนะนำเก็งกำไรเร็วเน้นหุ้น mid caps และหุ้นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/58 โดดเด่น

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐานเก็งกำไร SCC กลุ่มเดินเรือ (TTA-PSL) และสะสม TSR

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.) ว่าคงน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “กลาง” คงประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,475-1,490 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เป็นผลจากการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์แล้ว

โดยเชื่อว่าสถาบันที่ต้องปรับพอร์ตด้วยการลดน้ำหนักหุ้น TPIPL-AOT ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว หรือปรับจนใกล้เป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว โดยนำเงินจากการลดน้ำหนักใน 2 หุ้นนี้ เข้าสู่หุ้นหลักที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 เติบโตเด่น และ/หรือ ผลตอบแทนปันผลระหว่างกาลไม่ต่ำกว่า 2% โดยคาดว่าจะเป็น ADVANC-INTUCH-SCC ใกล้เคียงกับภาพวานนี้ เพียงแต่แรงขาย TPIPL-AOT น่าจะชะลอตัวลง

สำหรับในช่วงสั้นกลุ่ม ICT จะมีความแข็งแกร่งและโดดเด่น ทั้งจากผลตอบแทนปันผลระหว่างกาลที่เด่นแล้ว การวางกรอบเวลาเพื่อเดินหน้าสู่การประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800 ในวันที่ 11 พ.ย. 2558 จำนวน 4 ใบ ย่อมเกิดแรงเก็งกำไรต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง ADVANC-INTUCH-DTAC-TRUE และรวมไปถึงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบ (SI) ที่น่าจะได้รับงานวางระบบทั้ง HW และ SW ในระยะถัดไป

ขณะที่ภาพตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นนี้ยังคงยืนยันว่า จุดตัดของภาพ SET INDEX ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 ของหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร KBANK-SCB-BBL-KTB เป็นสำคัญ ซึ่งตลาดได้ปรับประมาณการรอบใหญ่ในช่วงที่ประมาณการไตรมาส 2/58 ไปในช่วงปลายเดือนมิ.ย. ดังนั้น หากผลการดำเนินงานใกล้เคียงคาด หุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะมีแนวโน้มทรงตัวถึงฟื้นตัวได้ อันจะผลักดันให้ SET INDEX ขึ้นไปทดสอบ 1,500 จุดได้ แต่หากออกมาต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยยะสำคัญ อาจกลายเป็นตัวแปรกดดัน SET INDEX ปรับฐานลงสู่แนว 1,460 จุดได้อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนที่ทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ อาจพิจารณาขายทำกำไรบริเวณ 1,490-1,500 จุดหรือ ปรับเข้าหุ้นที่ราคาขยับขึ้นมาช้ากว่าภาพรวมของกลุ่มอุตฯ

Top Pick in 3Q15: BCP / BMCL/ IFEC / WHA

HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC/ INTUCH

Accumulative Buy: ADVANC/SCC

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ก.ค.) ว่าในระยะสั้นให้ดูแนวรับ 1,480 จุด หากดัชนียืนไม่ได้ ประเมินมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดที่ 1,460 จุด แนะนำทยอยซื้อลงทุน ADVANC-INTUCH จากประเด็นการเปิดประมูลคลื่น 4G