โบรกเชียร์ซื้อ 9 หุ้นเด่นSET บ่ายแกว่งไซด์เวย์
SET ปิดช่วงเช้าแกว่งไซต์เวย์ หุ้นพลังงานเป็นตัวกดดันดัชนีหลังราคาน้ำมันปรับลงต่อ แต่ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์และค้าปลีก ส่วนตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวแดนลบหลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนทรงตัว และยังต้องจับตากรณีกรีซที่ต้องชำระเงินให้เจ้าหนี้ รวมถึงผลการประชุมกนง.พุธนี้ (5 ส.ค.) ช่วงบ่ายคาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,425 จุด ส่วนแนวต้าน 1,450 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (3 ส.ค.) แกว่งไซด์เวย์ หุ้นกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์และค้าปลีก
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามผลการประชุม กนง. ในวันพุธนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยน Fund Flow ที่สำคัญ ขณะที่ ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวในแดนลบ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาปัญหากรีซที่อาจจะเริ่มมีผลกระทบมากขึ้นในเดือนนี้ หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย แกว่งไซด์เวย์ต่อ โดยมีแนวรับ 1,425 จุด ส่วนแนวต้าน 1,450 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อกลุ่มธนาคาร KBANK-KTB-TMB และ SCB สำหรับกลุ่มสื่อสาร และรับเหมาฯ INTUCH-ADVANC-TRUEIF-SEAFCO-STEC และ CK
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งไซด์เวย์ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานกดดันดัชนีจากราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลง แต่ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์และค้าปลีก
ขณะที่ ต้องจับตาวันพุธนี้ (5 ส.ค.) ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจเป็นจุดเปลี่ยน Fund Flow ที่สำคัญ เพราะหากมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่ตลาดคาด ก็อาจทำให้เงินบาทหยุดอ่อนค่าในระยะสั้น หรืออาจกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง และจะช่วยหยุดการไหลออกของ Fund Flow และอาจมีบางส่วนที่ไหลกลับเข้ามา
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ หลังจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาอยู่ในระดับ 50 พอดี แนะติดตามประเด็นกรีซเนื่องจาก IMF ระบุว่าจะไม่ร่วมปล่อยเงินกู้ให้กับกรีซอีกจนกว่ากรีซและเจ้าหนี้ยูโรโซนจะเจรจากันในประเด็นการผ่อนปรนหนี้ให้เสร็จก่อน ซึ่งการเจรจานี้จะต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 20 ส.ค.นี้ก่อนกำหนดชำระหนี้ให้ ECB จำนวน 3,200 ล้านยูโร ดังนั้น เรื่องของกรีซคงจะเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นในเดือนนี้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ต่อไป เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน พร้อมให้แนวรับ 1,425 จุด ส่วนแนวต้าน 1,450 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (3 ส.ค.) แม้การปรับลดลงของตลาดหุ้นโลก เป็นปัจจัยกดดัน SET ตั้งแต่เปิดตลาด แต่ยังไม่ทำให้แนวโน้มการ Rebound เสียหายหลัง SET ยืนได้เหนือ 1,425 จุด สัปดาห์ก่อน ยังลุ้น Rebound ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมาย 1,456 หรือถัดไปที่ 1,490 จุด โดยคาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” และแนะนำ “ซื้อ” KBANK (ต้าน 182/190), KTB (ต้าน 17.50/17.9/18.3), TMB (ต้าน 2.42), และ SCB (ต้าน 157) จาก 1) Valuation ในเชิง PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ประมาณ 20%, 2) ราคาหุ้นสะท้อนความกังวลจาก NPLs ที่เร่งตัวขึ้นไปแล้ว
3) ธนาคารขนาดใหญ่ เตรียมประกาศปันผลระหว่างกาลปลายเดือน ส.ค.นี้, 4) Downside Risk จากการลดดอกเบี้ยในอนาคตจำกัด และคาดว่า กนง.ยังไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุม วันที่ 5 ส.ค.นี้ และ 5) ในทางเทคนิคหุ้นกลุ่มธนาคารมีแนวโน้ม Outperform ตลาด…สำหรับกลุ่มสื่อสาร และรับเหมาฯ แนะนำ “ซื้อ” INTUCH ADVANC TRUEIF SEAFCO STEC และ CK
ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) เดือน ก.ค. -1.05% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (คาด -1.0%) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) เพิ่มขึ้น +0.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ จากอัตราเงินเฟ้อที่หดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน คาดว่าที่ประชุม กนง.วันที่ 5 ส.ค.นี้ จะมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 1.50% หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแล้วประมาณ 7% หลังการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค. และมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อในกรณีที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 16-17 ก.ย.นี้
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 751.07 ล้านบาท ปิดที่ 247.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TASCO มูลค่าการซื้อขาย 725.96 ล้านบาท ปิดที่ 24.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PK มูลค่าการซื้อขาย 722.23 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 629.25 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 535.41 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์