จับตาประชุมกนง.บ่ายนี้ชี้ชะตา SETเก็งหุ้นแบงก์-Leasing-ปันผล-ส่งออก

SET ช่วงเช้ารีบาวด์ขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นพลังงานที่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่รับแรงกดดันจากหุ้นแบงก์ที่ต่างยังรอดูผลของการประชุมกนง.ในบ่ายวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคอยู่ในแดนบวก หลังได้รับปัจจัยหนุนจากจีน ช่วงบ่ายคาดทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับผลการประชุมกนง. โดยมีแนวรับ 1,430 จุด แนวต้าน 1,440-1,450 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (5 ส.ค.) รีบาวด์ขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ยังเผชิญแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ (5 ส.ค.) ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังตัวเลขภาคบริการของจีนออกมาดี พร้อมจับตาเฟดที่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับผลการประชุมกนง. ถ้าผลออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ยอาจมีการเก็งหุ้นในกลุ่มแบงก์ แต่ถ้าผลออกมาให้ลดอัตราดอกเบี้ยอาจกดดันหุ้นในกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด แนวต้าน 1,440-1,450 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ KTB-KBANK หากผลกนง.ออกมาคงดอกเบี้ย

แต่ถ้าผลออกมาลดดอกเบี้ยแนะนำซื้อ กลุ่ม Leasing, Yield Plays, และ ส่งออก เช่น SAWAD, TISCO, KKP, INTUCH, ADVANC, TRUEIF, BTSGIF และ DELTA

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง ตลาดหุ้นไทยเช้านี้โดยรวมรีบาวน์ขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่มองว่าน่าจะเป็นเพียงแค่ short term ในทางเทคนิคเท่านั้น เพราะทิศทางราคาน้ำมันเวลานี้เป็นช่วงขาลงอยู่จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ตลาดยังเผชิญแรง take profit ที่มาจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ โดยนักลงทุนรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันนี้ ซึ่งหากผลออกมาคงอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ไปกดดันกลุ่มแบงก์ แต่สุดท้ายแล้วการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ยังขึ้นอยู่กับภาพรวมเศรษฐกิจด้วย ซึ่งขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างยังชะลอตัว

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังจากที่ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนออกมาดี พร้อมให้จับตาธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐยังอยู่ในกรอบที่มองไว้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับผลการประชุมกนง. ถ้าผลออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ยก็อาจจะมีการเก็งหุ้นในกลุ่มแบงก์และช่วยลดแรงกดดันได้ แต่ถ้าผลออกมาให้ลดอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มแบงก์ได้ โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,440-1,450 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ส.ค.) หุ้นกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่อ่อนแอกว่าตลาดเช้านี้ จากความไม่แน่นอนกรณีที่จะมีการประชุม กนง.ในบ่ายวันนี้ อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามคาดว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ช่วงบ่ายวันนี้ แนะนำ “ซื้อ” KBANK-KTB ที่ Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ในอดีต และ PE ปัจจุบันที่ 8-10 เท่า ต่ำกว่า SET

ทั้งนี้ หากในกรณีที่ กนง.ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1.25% จะเป็นปัจจัยกดดันแบงก์ขนาดใหญ่ระยะสั้น แต่ระยะกลางและยาว มองผลกระทบต่อ NIM และกำไรจำกัดแล้ว ขณะที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Leasing, Yield Plays, และ ส่งออก อย่าง SAWAD, TISCO, KKP, INTUCH, ADVANC, TRUEIF, BTSGIF, และ DELTA

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ASEFA มูลค่าการซื้อขาย 2,341.67 ล้านบาท ปิดที่ 7.10 บาท เพิ่มขึ้น 3.40 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 858.00 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 751.84 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 722.26 ล้านบาท ปิดที่ 243.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 692.34 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button