นักวิเคราะห์แนะซื้อ 11 หุ้นเด่นSET ไร้ปัจจัยหนุน บ่ายซึมต่อ

SET ไร้ปัจจัยหนุน ปิดเช้าแกว่งแคบ มีแรงขายหุ้นพลังงานหลังราคาน้ำมันไม่ดีขึ้น ด้านปัจจัยในประเทศอยู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบ Q2/58 ซึ่งนักวิเคราะห์มีแนวโน้มที่จะปรับลดประมาณการลง ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ ช่วงบ่ายคาดซึมตัวลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,440 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (10 ส.ค.) แกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยเด่นในช่วงนี้ และยังเจอแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันยังไม่ดีขึ้น ด้านปัจจัยในประเทศอยู่ช่วงโค้งสุดท้ายประกาศงบไตรมาส 2/58 ซึ่งนักวิเคราะห์มีแนวโน้มที่จะปรับลดประมาณการลง ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดจีนปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดอื่น

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยอยู่ในทิศทางซึมตัวลงต่อ โดยมีแนวรับ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,440 จุด ขณะที่ แนะนำหุ้น INTUCH-ADVANC-TRUEIF-CK-STEC-SEAFCO-BLA-EA-AAVEA และ TIPCO

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยเด่นชัด อีกทั้ง อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/58 หลังสิ้นสุดคาดนักวิเคราะห์จะมีการปรับลดประมาณการผลประกอบการทั้งปีลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังอยู่ในทิศทางขาลงต่อ

ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและลบ โดยตลาดจีนปรับตัวขึ้นมากสวนทางตัวเลขการส่งออกที่ออกมาแย่ คาดว่าจะเป็นผลจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีมาตรการในเรื่องมาร์จิ้นมาช่วยหนุนตลาดหุ้นไปแล้ว

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยอยู่ในทิศทางซึมตัวลงต่อ พร้อมให้แนวรับ 1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,440 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค. ) SET ปรับลดลงต่อเนื่อง จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP, PTTGC รวมไปถึง AOT ที่กดดันดัชนีตั้งแต่เปิดตลาด และมีโอกาสที่ SET จะปรับลดลงไปปิด Gap ที่ 1,418 จุด ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นระยะสัปดาห์รูปแบบ Technical Rebound ด้วยเป้าหมาย 1,448/1,490 จุด เหมือนเดิม

สำหรับทางกลยุทธ์ แนะนำ “Selective” หุ้นกลุ่มสื่อสาร รับเหมาฯ อย่าง INTUCH-ADVANC-TRUEIF-CK-STEC และ  SEAFCO สำหรับกลุ่มหุ้นที่กำไรเติบโตดีอย่าง BLA-EA ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันได้แก่ AAV-TIPCO (Indirect Benefit จากการถือหุ้น TASCO)

ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” EA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 30 บาท จาก 1) กำไรไตรมาส 2/58 เติบโตแกร่งเป็น 800 ล้านบาท หรือ +38% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 96%จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 3.05 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในปี 58 (การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่พิษณุโลก 90MW และพลังงานลม Hadd 126MW เป็นไปตามแผน) คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 พันล้าน หรือเพิ่มขึ้น 95% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

2) ผลการดำเนินงานมีความมั่นคงสูง และ PE ลดลงอย่างรวดเร็วจาก 26 เท่า ปีนี้ เป็น 14 เท่า ในปี 58 และ  พร้อม Dividend Yield ที่เพิ่มขึ้นจาก 1.1% ปีนี้เป็น 2.2-3.6% ในปี 59-60

และ 3) มี Upside จากการลงทุนในอนาคต ด้วย D/E ที่ค่อยๆ ลดลงต่อเนื่องจาก 2.2 เท่า ปีนี้ เป็น 1.9-1.5 เท่า ในปี 59-60 ขณะที่ทางเทคนิคลุ้นทะลุ 22.1 และ 22.5 จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 23.2-23.6 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

COM7 มูลค่าการซื้อขาย 4,716.03 ล้านบาท ปิดที่ 4.56 บาท เพิ่มขึ้น 1.21 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,697.17 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

AJD มูลค่าการซื้อขาย 1,547.53 ล้านบาท ปิดที่ 1.57 บาท เพิ่มขึ้น 0.21 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 576.30 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 336.15 ล้านบาท ปิดที่ 314.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button