SET สัปดาห์นี้พักฐาน! กลยุทธ์แนะเก็งกำไรเน้นย่อซื้อ-ดีดตัวขาย ชู TASCO หุ้นเด่น
โบรกฯคาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ‘Sideway’ หลังตลาดหุ้นโลกปรับฐานแรง จากความกังวลต่อการเกิดการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 รอบที่ 2 ในสหรัฐฯ
Weekly outlook: “Sideway” ต้าน 1,450/1,465 จุด รับ 1,393/1,366 จุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ คาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (15-19 มิ.ย.63) ‘Sideway’ หลังตลาดหุ้นโลกปรับฐานแรง จากความกังวลต่อการเกิดการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 รอบที่ 2 ในสหรัฐฯ หลังทำการทยอยเปิดเมืองในหลายรัฐ ผสานกับการชุมนุมประท้วงครั ้งใหญ่จากการเสียชีวิตของนาย George Floyd ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการประท้วงมีผลตรวจติดเชื้อ Covid-19 ท าให้มีโอกาสที่จะเห็นการระบาดในกลุ่มประท้วงในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้
โดยปัจจัยที่ทำให้เพิ่มความกังวลต่อ Second Wave อย่างมีนัยมาจากยอดผู้ติดเชื ้อในรัฐ Texas เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่พุ่งขึ้น 2,647ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และในรัฐ California กว่า 3,074 ราย ซึ่งทั้งสองรัฐถือเป็นรัฐที่มีสัดส่วนต่อ GDP สหรัฐฯสูงที่สุด (California 14.6%, Texas 8.8% ของ GDP) นอกจากนี้จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ หลังปลอดคนไข้รายใหม่ติดต่อกัน 56 วัน ซึ่งผู้ป่วยคนดังกล่าวไม่มีประวัติเดินทางออกนอกปักกิ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ได้สัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง
ซึ่งความเสี่ยงต่อโอกาสเกิด Second Wave สร้างความกังวลต่อ downside ของเศรษฐกิจโลกทำให้จิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเป็นลบ ส่วนความคืบหน้าประเด็น Brexit นายกฯอังกฤษเตรียมหารือกับผู้นำ EU ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง UK-EU หลังการเจรจาไม่คืบหน้ามาตั้งแต่เดือนก.พ. โดยภายใต้เงื่อนไข Brexit ทั้ง UK และ EU จะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นเดือนต.ค. และมีเวลาอีก 4 เดือนสำหรับรัฐสภาของแต่ละฝ่ายในการลงมติรับรองข้อตกลง
ส่วนปัจจัยทางฝั่งน้ำมัน 18 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฎิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (Joint Ministerial MonitoringCommittee : JMMC) ติดตามสัญญาณทางฝั่ง Supply หลังความเสี่ยง Second Waveก่อให้เกิดความกังวลต่อ Demand น้ำมันดิบอีกครั้ง และทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ 1) การประชุม BOJ (15-16 มิ.ย.) Nomura คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม แต่แนะติดตามมุมองเศรษฐกิจ และ BOE (18 มิ.ย.) คาดเพิ่มวงเงิน QEที่ 1 แสนล้านปอนด์ 2) การประชุม EU Summit 18-19 มิ.ย. จะมีการหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร 3) FTSE Rebalance จะมีผลราคาปิด 19 มิ.ย. ซึ่งรอบนี้ไทยถูกปรับลดน้ำหนักลง จาก 3.05% สู่ 2.98% คิดเป็นเม็ดเงินขายรวม 121 ล้านเหรียญ จะเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยได้
กลยุทธ์การลงทุน: ตลาดเริ่มพักฐาน หลังสัญญาณเฟดคงดอกเบี้ย 0-0.25% ถึงปี 2022 อาจสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า ประกอบกับ Valuation SET ปี 2020-2021 ตึง ตัวที่ 21.11เท่า และ 16.7เท่า ตามลำดับ พอร์ตลงทุนเชิง Tactical แนะนำถือหุ้นเพียง 25% หลังลดไปกรอบ 1420-1450จุด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กลยุทธ์เก็งกำไรเน้นย่อซื้อ-ดีดตัวขาย
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TASCO ส่วนสัปดาห์ก่อน TU, BDMS, TASCO ให้ผลตอบแทน -5.14 แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน -3.70 %
1) TASCO(TP26.2):Spread ยางมะตอยอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น เป็นเป้า Upgrade