แนะเก็บกลุ่มหุ้นหลบภัยจากหยวนอ่อนค่าSET บ่ายลุ้นเหนือแนวรับสำคัญ 1,400 จุด

SET ปิดเช้าแกว่งแคบ โดยนักลงทุนเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก และมีแรงซื้อกลับหุ้นแบงก์ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งแดนบวก-ลบตามตลาดสหรัฐ ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาคือการขึ้นดอกเบี้ยเฟด และทิศทางราคาน้ำมัน บ่ายนี้คาดดัชนีแกว่งแคบต่อ โดยมีแนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,420 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,400 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (14 ส.ค.) แกว่งแคบหลังไม่มีปัจจัยหนุนช่วงนี้ โดยนักลงทุนเลือกเล่นเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กรายตัว รวมถึงมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มแบงก์ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ดัชนีแต่ไม่มากนัก ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ตามตลาดสหรัฐ นอกจากนี้ต้องจับตาว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และราคาน้ำมันจะเป็นอย่างไร

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คาดดัชนีคงแกว่งแคบต่อไป หากค่าเงินหยวนยังนิ่ง และมีการเลือกลงทุนเป็นรายตัวตามงบฯ โดยมีแนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,420 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,400 จุด ขณะที่ แนะนำหุ้น INTUCH, ADVANC, CK, STEC, SEAFCO, SAPPE, TUF, BEAUTY, WORK และ SVI

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบหลังจากไร้ปัจจัยกระตุ้น โดยแรงซื้อมีเข้ามาในหุ้นขนาดเล็กที่มีกำไรดีในลักษณะเล่นเก็งกำไรรายตัวมากกว่า ส่วนการที่ตลาดสามารถยืนในแดนบวกได้เล็กน้อยเป็นผลจากแรงซื้อกลับเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ แต่ยังไม่มากนัก เป็นลักษณะทยอยเก็บมากกว่า เนื่องจากคลายความวิตกประเด็นหนี้เสีย (NPL) ที่คาดว่าจะไม่เพิ่มขึ้นมาก

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบเล็กน้อย เป็นลักษณะของการแกว่งแคบตามตลาดสหรัฐที่เมื่อคืนแกว่งบวกและลบเล็กน้อยหลังจากที่ค่าเงินหยวนนิ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนหันไปโฟกัสที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบเดือนก.ย.นี้หรือไม่ อีกทั้งต้องจับตาราคาน้ำมันในระยะต่อไป เนื่องจากราคาอ่อนแอมาจากอุปทานที่สูง

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ หากค่าเงินหยวนยังนิ่ง ทิศทางตลาดคงแกว่งแคบต่อไป และมีการเลือกลงทุนเป็นรายตัวตามงบฯ มากกว่า พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,420 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,400 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ส.ค.) SET มีจังหวะรีบาวด์ต่อเนื่องสามารถยืนเหนือ 1,400 จุดได้อย่างมั่นคง จากแรงซื้อกลับหุ้นธนาคาร พลังงาน และหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิง Sentiment ไปก่อนหน้า หลังธนาคารกลางจีนยืนยันการรักษาเสถียรภาพเงินหยวนอย่าง AOT และ BEAUTY ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิคจะยังผันผวนต่อไป จนกว่าจะเห็น Momentum การฟื้นตัวก็ต่อเมื่อ SET สามารถยืนได้เหนือ 1,416 จุดได้

ทั้งนี้ Sentiment ตลาดที่ถูกกดดันจากการปรับลดค่าเงินหยวนเป็นโอกาส “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากหยวนอ่อนค่าและมีประเด็นลงทุนอย่างกลุ่มสื่อสารที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และได้ประโยชน์จากประมูล 4G อย่าง INTUCH-ADVANC

ส่วนกลุ่มรับเหมาฯ คาดเปิดประมูลรถไฟรางคู่ คลอง19-แก่งคอยและจิระ-ขอนแก่น ภายใน ส.ค.-ก.ย.นี้ การปรับตัวลงของหุ้นเป็นโอกาส “ซื้อ” CK-STEC-SEAFCO

ขณะเดียวกัน ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 ของ SAPPE (ต้าน 30.0) TUF (ต้าน 19.5) BEAUTY (4.56)  WORK (ต้าน 41/44) และ SVI (ต้าน 4.90) ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 987.12 ล้านบาท ปิดที่ 299.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

AJD มูลค่าการซื้อขาย 753.62 ล้านบาท ปิดที่ 1.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 642.54 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

COM7 มูลค่าการซื้อขาย 505.34 ล้านบาท ปิดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 493.01 ล้านบาท ปิดที่ 5.00 บาท ลดลง 0.05 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button