ชง 14 หุ้นงบฯ หรู-รับผลดีมาตรการกระตุ้นศก.SET ลุ้นยืนเหนือ 1,416 จุดจับตากองทุนฯไล่ซื้อ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีมีโอกาสปรับขึ้นต่อหลังธนาคารกลางจีนยืนยันรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวน และถ้า SET ยืนได้เหนือ 1,416 จุด จะเป็นสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค แนวต้าน 1,416/1,436 จุด ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายในการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.24 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 35.35 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งถือว่าหดตัวลงน้อยกว่าที่คาดการณ์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีมีโอกาสปรับขึ้นต่อหลังธนาคารกลางจีนยืนยันรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวน และถ้า SET ยืนได้เหนือ 1,416 จุด จะเป็นสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค แนวต้าน 1,416/1,436 จุด ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายในการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่  EPG, KBANK, KTB, CK, STEC, SEAFCO, HMPRO, GLOBAL, WORK, SCC, BTS, EASTW, WORK และ AOT

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบ เนื่องจากน้ำหนักปัจจัยบวก-ลบใกล้กัน โดยมีปัจจัยบวกจากทางยูโรโซนได้อนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซแล้วเป็นเงิน 86,000 ล้านยูโรในระยะเวลา 3 ปี เป็นลักษณะจ่ายให้เป็นงวด ๆ และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย อย่างตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม

แต่ตลาดก็มีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง โดยเช้านี้ก็ทำ New Low หลุด 42 เหรียญฯ/บาร์เรลแล้ว และนักลงทุนต่างชาติก็ได้ขายสุทธิมา 9 วันติดต่อกัน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน พร้อมให้แนวรับ 1,405 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ะบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) SET มีแนวโน้มทดสอบแนวต้าน 1,416 จุด หลังธนาคารกลางจีนยืนยันรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวน และถ้า SET ยืนได้เหนือ 1,416 จุด จะเป็นสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค แนวต้าน 1,416/1,436 จุด ขณะที่ตัวเลข GDP 2Q15 วันนี้ Consensus คาดขยายตัว ~3% y-y ใกล้เคียงกับ 1Q15 (มองผลกระทบของ GDP ต่อ SET จำกัด)

การปรับลดลงของ SET จากความกังวลต่อค่าเงินหยวน เป็นโอกาส “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK STEC SEAFCO ที่รายได้อิงกับโครงการลงทุนภาครัฐฯ ในอนาคต และคาดว่าจะมีการเปิดประมูลรถไฟรางคู่ 2 เส้นทางเร็วๆ นี้ ขณะที่ Consumption Plays อย่าง HMPRO GLOBAL (กำไร 2Q15 ดีกว่าคาด และแนะนำ “ซื้อ” ใน Tactical Portfolio) ROBINS ที่ราคาปรับลดลงแรง -16.5%, -8.8%, -5.5% YTD มีจังหวะ “เก็งกำไร” ก่อนการปรับ ครม.ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ขึ้นต่อกรอบจำกัด

คาดดัชนีวันนี้บวกกรอบแคบๆ จากแรงซื้อในประเทศ คาดสถาบันยังมี flows ซื้อเพื่อกองทุนทริกเกอร์ที่ออกชุดล่าสุด รวมทั้งการเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่งบไตรมาส 2/58 โดดเด่นด้านปัจจัยภายนอกนิ่งขึ้น หลังจีนยืนยันว่าการปรับสมดุลค่าเงินหยวนได้เสร็จสิ้นแล้วอย่างน้อยในช่วงสั้นและฝั่งยุโรปน่าจะมีขjาวดีในสัปดาห์นี้ หลังรัฐสภาเยอรมันจะลงมติแผนช่วยกรีซในวันพุธนี้

อย่างไรก็ดี ต่างชาติยังมีแนวโน้มขายสุทธิต่อด้วยความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินสหรัฐ จำกัดทางขึ้นในช่วงสั้น ส่วนเช้าวันนี้สภาพัฒน์จะรายงาน GDP ไตรมาส 2/58 ทั้งนี้ คาด+2.5% จากปีก่อนขณะที่ consensus คาด +2.9% จากปีก่อน สรุปแนะเก็งกำไรสั้น เน้นหุ้นงบเด่นและหุ้น valuation ต่ำ

หุ้นเด่นวันนี้  เก็งกำไรกำไร EPG

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) แม้ตลาดหุ้นไทยได้ผ่านการปรับฐานแล้ว แต่ยังมี Ex. PER 15.5 เท่า ทำให้มี upside จำกัด ยังเน้นหุ้นที่สามารถทำกำไรได้ดีกว่าตลาด (SCC, BTS, EASTW, WORK) วันนี้เลือก AOT(FV@B344)เป็น Top pick ด้วยลักษณะธุรกิจที่มีรายได้ค่าเช่า และค่าบริการผู้เดินทางเข้าประเทศ ทำให้เติบโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว มีแผนขยายสนามบินชัดเจน ราคาหุ้นมี upside 21%

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) ภาวะการซื้อขายวานนี้ดัชนี SET ปรับตัวลงต่ำสุดบริเวณ 1,382 จุด และเริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมาหลังจาก ธ.กลางจีนได้ประกาศหยุดการปรับค่าเงินหยวน ขณะที่ผลประกอบการ Q2/58 ของบริษัทต่าง ๆ ที่ทยอยประกาศออกมาส่วนใหญ่ยังออกมาดี กลยุทธ์การลงทุน ประเมินกรอบแนวรับ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,410 – 1,420 จุด

แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น เนื่องจากภาคเศรษฐกิจยังรอดูผลกระทบจากการปรับค่าเงินหยวนที่อาจจะมีผลกระทบต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยวไทย ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร WORK (Consensus@46) รายงานกำไรสุทธิ Q2/58 +100% (YoY) และครึ่งปีแรก 58 กำไรสุทธิ +115 % (YoY)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) Sideway up ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา เชื่อว่านักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับจีนลดค่าเงินหยวนและไม่ต้องการให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน IMF ก็ออกมาเห็นด้วยกับจีนที่ปรับลงค่าเงินหยวนให้สมดุลและค่าเงินหยวนก็ไม่ได้ Undervalued ส่วนจีดีพี 2Q15 น่าจะออกมาตามคาด 2.8% นอกจากนี้ประเด็นการปรับครม. และรัฐเร่งดำเนินแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้น

กลยุทธ์วันนี้: เน้นซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องจากวันศุกร์ในหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมถึงหุ้นกลุ่มน้ำมันที่เชื่อว่ามีโอกาสฟื้นตัวสูงหลังมี Downside จำกัด

Trading วันนี้: EPG (หากต้องการซื้อหุ้นที่มีนวัตกรรมต้องซื้อ EPG เท่านั้น) /KBANK, KTB

Back to top button