หาช่องช้อนหุ้น Defensive-ปันผลสูง ราคาต่ำเลี่ยงกลุ่มเสี่ยงระเบิดกทม. เคาะแนวรับ 1,375
นักวิเคราะห์มองเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์จะกดดัน SET ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,400 จุดอีกครั้ง ขณะที่แนวรับต่ำสุดอยู่ที่ 1,375 จุด การลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นท่องเที่ยว, ขนส่ง, โรงพยาบาล และกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่จับตาการเคลื่อนไหวของ AOT ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดัชนีมากที่สุด แนะนำสะสมหุ้นที่ลงต่ำมากๆ โดยเฉพาะหุ้น Defensive และหุ้นปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.50 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ นักวิเคราะห์มองเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์จะกดดัน SET ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,400 จุดอีกครั้ง ขณะที่แนวรับต่ำสุดอยู่ที่ 1,375 จุด
การลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นท่องเที่ยว, ขนส่ง, โรงพยาบาล และกลุ่มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่จับตาการเคลื่อนไหวของ AOT ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อดัชนีมากที่สุด แนะนำสะสมหุ้นที่ลงต่ำมากๆ โดยเฉพาะหุ้น Defensive และหุ้นปันผลสูง หุ้นเด่นเลือก ADVANC-BCP-BMCL-IFEC-WHA-INTUCH-WIIK และ CPR
นักวิเคราะห์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ดัชนีเปิดตลาดเช้านี้ (18 ส.ค.) มีแนวโน้มอ่อนตัวลงกว่า 30 จุด หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯเมื่อคืนวานนี้ ส่วนจะลงต่อหรือรีบาวด์นั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นที่มีต่อแถลงการณ์ของรัฐบาล
สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อกรณีดังกล่าวได้แก่ 1) หุ้นกลุ่มโรงแรม MINT ERW CENTEL 2) หุ้นในกลุ่มสายการบิน AAV THAI NOK BA และ 3) กลุ่มอื่นๆ เช่น AOT BTS BMCL ขณะที่แนะนำให้จับตาการเคลื่อนไหวของ AOT เนื่องจากจะมีผลต่อดัชนีมากที่สุด
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) ลดน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น “ลบ” วันแรกในรอบ 3 วันทำการ คาด SET INDEX จะปรับฐานลงสู่แนว 1,380-1,385 จุด +/- จากเหตุการณ์ระเบิดกลางสี่แยกราชประสงค์ช่วงค่ำวานนี้ ผลกระทบที่ตามมา
- กลุ่มท่องเที่ยว อย่าง ERW/CENTEL/MINT/AOT/CPN ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ในเชิงจิตวิทยาการลงทุนค่อนข้างมาก
- หุ้นข้างเคียงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเช่นกันได้แก่ กลุ่มสายการบิน/MAJOR/SPA
- แรงขายจากต่างชาติอาจกลับมาในอัตราเร่งอีกครั้ง
- และอาจตามมาด้วยการทำ SBL/Put Options/SSF ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว รวมถึงหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงด้วยเหตุการณ์ระเบิด ย่อมสร้างแรงกดดันเชิงจิตวิทยาการลงทุน และการพิจารณาปรับครม. ในวันนี้อาจต้องถูกเลื่อนออกไป เชื่อว่ารัฐบาลต้องเร่งหาสาเหตุของการวางระเบิดดังกล่าว
ขณะที่หุ้น Defensive/หุ้นปันผลสูง เชื่อว่าจะเป็นที่พักเงินในช่วงสั้นนี้ได้เป็นอย่างดี เช่น กลุ่ม ICT/กองทุน REIT/กองทุน IFF/กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนปรับพอร์ตเข้าหุ้น Defensive เพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าวในช่วงสั้น”
Top Pick in Q3/15: BCP/BMCL/IFEC/WHA
Accumulative Buy: INTUCH
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) ว่า ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์วานนี้ ประเมินแนวรับ 1,375 +/- จุด ขณะที่ ETF MSCI Thailand ปรับลดลง -2.19% เมื่อคืนนี้ (อิงระเบิดเมื่อ 31 ธ.ค.06 SET ปรับลดลง ประมาณ 3% วันแรก ประมาณ 10% ใน 1.5 สัปดาห์) ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าทันที 1% ตั้งแต่เมื่อคืนที่ 33.55 บาท/ดอลลาร์ฯ
แนะนำเลี่ยงกลุ่มหุ้นที่ถูกกระทบโดยตรง การปรับลดลงวันนี้ ยังไม่ใช่จังหวะซื้อ…รอตลาดนิ่งพร้อมสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคก่อน และหลีกเลี่ยงกลุ่มหุ้น 1) กลุ่มท่องเที่ยว: AOT ERW CENTEL MINT AAV THAI 2) ห้างสรรพสินค้า: CPN ROBINS 3) โรงพยาบาลที่มีลูกค้าต่างประเทศ: BH BDMS4) โรงภาพยนต์: MAJORขณะที่ Consumption Plays จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากภาคการท่องเที่ยวที่อ่อนแอลง อย่างกลุ่มธนาคาร ค้าปลีก (BEAUTY)
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) ว่า เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์น่าจะกดดัน SET ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,400 จุดอีกครั้ง โดยให้หลีกเลี่ยงหุ้นท่องเที่ยว ขนส่งทางอากาศ และโรงพยาบาล วันนี้ให้สะสมหุ้นที่ลงต่ำมากๆ โดยเฉพาะหุ้นDefensive คือ ADVANC (FV@B285) เลือกเป็น Top pick มี Div yield 6% และ upside 21%
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ส.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET เมื่อวันก่อนย่อตัวด้วยแรงกดดันของแนวต้าน 1,418 และ MA10 ขณะที่ MACD อยู่ที่ -13.34 แสดงให้เห็นว่าภาพตลาดจะยังไม่สามารถแสดงภาพแนวโน้มขึ้นที่ชัดเจนได้ รูปของ candlestick เมื่อวันก่อนแสดงรูปการอ่อนลงและจะเข้ามาทดสอบ 1,400-1,395 จุดตามสัญญาณทางเทคนิคข้างต้น และพบแนวต้านใหม่ที่ 1,412 จุดซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งเมื่อวานนี้
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,400-1,412
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร WIIK และ CPR