SET สัปดาห์นี้ “Sideways/Down” รอการเมืองชัดเจน แนะเก็งกำไรหุ้นกำไร Q3 สดใส

Weekly outlook : “Sideways/Down” ต้าน 1,270/1,260 จุด รับ 1,233/1,217 จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำประเด็นที่ต้องจับตาสำหรับสัปดาห์นี้ (28 – 30 ก.ย.63) (*) US First Presidential Debate : เข้าใกล้การเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 3 พ.ย. คาดตลาดจะมีความผันผวน จากความเสี่ยงทางด้านนโยบาย หากเกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยจับตาการโต้วาทีครั้งแรกระหว่าง Donald Trump และ Joe Biden 29 ก.ย.นี้ โดยจากข้อมูลในอดีตพบว่าการโต้วาทีครั้งแรกจะมีผลกับโพลมากที่สุด ซึ่งมีโอกาสที่จะได้เห็นนโยบายระหว่างประเทศที่ aggressive มากขึ้นจาก Trump เพื่อเรียกคะแนนเสียงกลับมา หลังคะแนนปัจจุบันยังตาม Biden อยู่ อาจกดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้

(*) Thailand MPC’s Views : กนง.ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 2020 ขึ้นสู่ -7.8% จาก -8.1% (vs Nomura คาดที่ -7.6%) เพื่อสะท้อนผลกระทบจากการปิดเมืองที่น้อยกว่าที่ประเมินไว้ แต่ทำการปรับลด GDP ปี 2021 ลงสู่ +3.6% จากคาดการณ์เดิมที่ +5% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเข้ามามากขึ้นกลางปี 2021 และยังคงย้ำว่าไทยจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาจุดเดิมก่อนเกิด Covid-19 ประเด็นดังกล่าวสร้าง Downside Risk ต่อประมาณการกำไรตลาดในปี 2021

(-) Political Uncertainty : รัฐสภาลงมติเห็นชอบให้ตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับไปก่อน เพื่อเป็นการพิจารณารับหลักการ ซึ่งจะมีกรอบระยะเวลาพิจารณาของคณะกรรมาธิการทั้งหมด 30 วัน ซึ่งประเด็นดังกล่าว สร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มผู้ชุมนุม และน่าจะกลับมาชุมนุมภายในเดือนต.ค.นี้

(*) TFEX Rollover : 29 ก.ย.นี้ เป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของ S50U20 ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็น S50Z20 อาจจะก่อให้เกิดความผันผวนในช่วงท้ายตลาดได้ โดยจากข้อมูลตั้งแต่ 30 มิ.ย.-24ก.ย. นักลงทุนแต่ละประเภทมีสถานะดังนี้ ต่างชาติ -29,443สัญญา สถาบัน -808 สัญญา และรายย่อย +30,251 สัญญา

(-) Resume of short selling and ceiling & floor rules : ตลท.ประกาศกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของการชอร์ตเซล(คาดเม็ดเงินอาจกลับมาระดับ 3-3.5 พันล้านบาท จากปัจจุบัน 4-500ล้านบาทต่อวัน) และการเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายสูงสุด/ต่ำสุดในแต่ละวัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป อาจเพิ่มความผันผวนของตลาดหุ้นไทยได้

กลยุทธ์การลงทุน : ช่วงปรับฐานตามความเสี่ยงภายในภายนอกปกคลุม พอร์ตลงทุนเชิงTactical คงถือหุ้นเพียง 25% ส่วนการเก็งกำไรเน้นหุ้นแนวโน้มกำไร 3Q20 น่าจะดี TU,CPF, KCE, SMT, WICE, ICHI, OSP, HTC, SAPPE, SPALI, XO และกลุ่มที่ใกล้ฟื้นตัว GFPT, BDMS