เคาะ 19 บจ.เด็ด รับผลดีมาตรการกระตุ้นศก.SET ผันผวนน้อยลง มีลุ้นฟื้นตามดาวโจนส์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐ การลงทุนยังคงเน้นไปที่กลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.60 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า แนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้ามีน้อยลงนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนน้อยลง มีแนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐ การลงทุนยังคงเน้นไปที่กลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ หุ้นเด่นเลือก BCP-BMCL-IFEC-WHA-CK-STEC-SEAFCO-HMPRO-GLOBAL-CPALL-PTT-ITD-BTS-TFUND-WORK-KTB-KBANK-BBL และ SCB

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ส.ค.) คงมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้ “เป็นกลาง” วันที่ 7 พร้อมกรอบแกว่ง 1,315-1,335 จุด หุ้นหลักในกลุ่ม Domestic Play ยังคงแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของ SET INDEX ที่ยังมีความผันผวนจากผลของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังเปราะบาง กดดันการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงาน เพียงแต่แรงกดดันดังกล่าวเป็นไปอย่างจำกัด เมื่อเทียบกับช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ การทยอยแถลงแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลัก ของเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนภายในประเทศเป็นสำคัญ จับตาการเสนอแผนช่วยเหลือสภาพคล่องทางการเงินของประชาชนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงการเดินหน้าเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้ง มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง/รถไฟรางคู่ 2 เส้นทาง/รถไฟฟ้า 3 เส้นภายจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้อย่างมีนัยยะสำคัญ หากเดินหน้าเปิดประมูลโครงการได้ตามที่ รัฐมนตรีคมนาคม/รัฐมนตรีคลัง ให้ความเห็นในวานนี้ ซึ่งกลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/กลุ่มวัสดุก่อสร้าง/กลุ่มธนาคาร/กลุ่ม ICT ทรงตัวถึงฟื้นตัว ได้ดีกว่าภาพรวมของ SET INDEX

ด้านปัจจัยต่างประเทศ ยังคงมีความเปราะบาง จากความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่จะเติบโตต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะจีน และ สหรัฐฯ เราให้น้ำหนักกับการประชุม Jackson Hole คืนวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.นี้ ประธานเฟด จะเข้าร่วมงานดังกล่าวพร้อมให้ความเห็นต่อทิศทางนโยบายการเงินของเฟดจากนี้ไป ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญจาก ณ ปัจจุบันภาพรวมเศรษฐกิจจีน และสหรัฐฯ ที่ส่อเค้าเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เฟดจะให้น้ำหนักในส่วนนี้ เพื่อส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกในส่วนของเงินทุนเคลื่อนย้าย และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนเลือกเก็งกำไรในหุ้น/กลุ่ม Domestic Play เป็นสำคัญ” จากการคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่คาดว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมเร็วๆ นี้

Top Pick in Q3/15: BCP/BMCL/IFEC/WHA

Accumulative Buy: ITD/WHA

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ส.ค.) ว่า SET มีแนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้น Dow Jones +3.95% เมื่อคืนนี้ แต่ยังมอง Upside จำกัดที่ 1,340 จุด และการเข้าซื้อช่วงนี้ควรอยู่ในรูปแบบ “Selective” ในกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ อย่างกลุ่มรับเหมาฯ ค้าปลีก และธนาคาร ไปก่อน เช่น CK (ปันผล 0.25 บาท XD 7 ก.ย.) STEC SEAFCO HMPRO (เป้าหมายระยะสั้นที่ 7.30 บาท) GLOBAL และ CPALL (ราคา Laggard กลุ่มในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทะลุ 48 ไป 50.75 บาท)

 

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ส.ค.)ว่า แม้ตลาดอยู่ระหว่างการย่อยข้อมูลการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของจีน แต่เชื่อว่าน่าจะหนุนตลาดหุ้นเอเซียระยะสั้น โดยคาด SET มีโอกาสทดสอบ 1,330 จุด ยังแนะถือ BTS (FV@B12), TFUND ([email protected]) วันนี้เลือก WORK (FV@B45) เป็น Top Pick เพราะกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ดีและเป็นผู้ประกอบการ TV Digital ที่มีศักยภาพมากสุด

 

บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ส.ค.)ประเมินแนวโน้ม SET วันนี้ฟื้นตัว แนวต้าน 1,340 จุด แนวรับ 1,315 จุด ระยะกลาง มอง SET แกว่งตัวสร้างฐานแต่ยังอยู่ในภาวะผันผวนขาลงอยู่

Top Daily Pick: PTT (มูลค่าเหมาะสม 363 บ.) และ ITD (มูลค่าเหมาะสม 8.25 บ.)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ส.ค.) ว่า ภาวะการซื้อขายโดยรวมนักลงทุนยังขาดความมั่นใจเนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นที่ผันผวน แต่เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาหุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ขณะที่รัฐบาลเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกองทุนหมู่บ้านและงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกต่อมาตรการดังกล่าว เพราะเป็นการเริ่มกระตุ้นกำลังซื้อกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อยโดยตรง

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ประเมินความผันผวนตลาดทุนน่าจะเริ่มลดลง โดยวางเป้าหมายการดีดกลับของดัชนีที่ระดับ 1,340 – 1,360 จุด

แนะนำซื้อ KTB (+งบลงทุนภาครัฐ ), KBANK, BBL, SCB (+รับปันผลงวดครึ่งปี , Cover Short )

Back to top button