เปิดกรุเบญจบลูชิพ

ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศดีดตัวขึ้นแรง หุ้นในกลุ่มบลูชิพจึงกลับมาเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง ด้วยการที่เป็นหุ้นพื้นฐานดี นอกจากนี้ยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) เป็นจังหวะดีในการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตลงทุน เพราะมีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้จะกลับขึ้นมาใกล้เคียงระดับที่ควรจะเป็นในจังหวะที่ตลาดฟื้นตัว


ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศดีดตัวขึ้นแรง หุ้นในกลุ่มบลูชิพจึงกลับมาเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง ด้วยการที่เป็นหุ้นพื้นฐานดี นอกจากนี้ยังมีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) เป็นจังหวะดีในการทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตลงทุน เพราะมีโอกาสสูงที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้จะกลับขึ้นมาใกล้เคียงระดับที่ควรจะเป็นในจังหวะที่ตลาดฟื้นตัว

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลพบว่ามีหุ้นขนาดใหญ่ที่มีส่วนต่างจากมูลค่าหุ้นตามบัญชีที่น่าสนใจอยู่ด้วยกัน 5 ตัว ได้แก่ PTTEP, KKP, SIRI, SENA และ ROJNA ซึ่งน่าทยอยซื้อเก็บไว้ในพอร์ตด้วยอัพไซด์ของหุ้นจึงกลายเป็นดาวเด่นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

 

หุ้น ราคาปิด (27 ส.ค.58) มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (BV) (26 ส.ค.58) อัพไซด์จากมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (%)
PTTEP 75 107.53 43.37
KKP 32.75 44.32 35.33
SIRI 1.59 1.76 10.69
ROJNA 5.75 6.30 9.57
SENA 3.08 3.28 6.49

ที่มา:www.set.or.th

 

หุ้นตัวแรกได้แก่บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP โดยวานนี้ (27 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 75 บาท ปรับตัวขึ้น 6.50 บาทหรือ 9.49% สูงสุดอยู่ที่ 75.75 บาท ต่ำสุดที่ 69.50 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 1.38 พันล้านบาทมีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 43.37%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 1.31 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.19 บาทต่อหุ้น ลดลง 93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.82 หมื่นล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 4.57 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 9.93 พันล้านบาท หรือ 2.35 บาทต่อหุ้น ลดลง 67.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.06 หมื่นล้านบาท หรือ 7.68 บาทต่อหุ้น

ด้านบล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 130 บาท

 

ตัวที่สองธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP โดยวานนี้ (27 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 32.75 บาท ปรับตัวขึ้น 1.25 บาทหรือ 3.97% สูงสุดอยู่ที่ 32.75 บาท ต่ำสุดที่ 31.25 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 34.67 ล้านบาทมีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 35.33%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 749.16 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.89 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 628.24 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.75 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1.41 พันล้านบาท หรือ 1.67 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.35 พันล้านบาท หรือ 1.61 บาทต่อหุ้น

ด้านบล.แอพเพิล เวลธ์แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 115.00 บาท

 

ตัวที่สามบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI โดยวานนี้ (27 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.59 บาท ปรับตัวขึ้น 0.07 บาทหรือ 4.61% สูงสุดอยู่ที่ 1.60 บาท ต่ำสุดที่ 1.54 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 110.50 ล้านบาทมีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 10.69%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 901.26 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.063 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 537.59 ล้านบาทหรือมีกำไรสุทธิ 0.052 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1,441.92 ล้านบาท หรือ 0.101 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,367.58 ล้านบาท หรือ 0.131 บาทต่อหุ้น

ด้านบล.ธนชาต แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท

 

ตัวที่สี่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA โดยวานนี้ (27 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.75 บาท ปรับตัวลง 0.10 บาทหรือ 1.71% สูงสุดอยู่ที่ 5.80 บาท ต่ำสุดที่ 5.70 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 10.18 ล้านบาทมีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 9.57%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 381.98 ล้านบาท หรือกำไร 0.19 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 639.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 51.68 ล้านบาท หรือกำไร 0.04 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 830.36 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.44 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 26.84 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.02 บาทต่อหุ้น

ด้านบล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท

 

ตัวที่ห้าบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA โดยวานนี้ (27 ส.ค.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.08 บาท ปรับตัวขึ้น 0.16 บาทหรือ 5.48% สูงสุดอยู่ที่ 3.12 บาท ต่ำสุดที่ 2.96 มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 16.33 ล้านบาทมีอัพไซด์จากมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) 6.49%

ขณะที่บริษัทรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 มีกำไรสุทธิ 35.39 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.0454 บาทต่อหุ้น ลดลง 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 100.46 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.1406 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 110.81 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.1421 บาทต่อหุ้น ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 133.57 ล้านบาท หรือมีกำไรต่อสุทธิ 0.1869 บาทต่อหุ้น

ด้านบล.เอเซีย พลัส แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท

 

*อนึ่งทีมงานข่าวฯหุ้นนำเสนอข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนเตรียมตัวรับมือในการลงทุนที่ผันผวน และหุ้นข้างต้นน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่ดัชนีฟื้นตัว และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button