แนะช้อน 8 หุ้นเด็ดช่วงดัชนีฯผันผวนSET ยังไร้ปัจจัยหนุน บ่ายแกว่งแคบ

SET เช้านี้ปิดบวก แม้มีแรงกดดันจากเรื่อง สปช.ไม่รับรางรธน. และอัตราการว่างงานสหรัฐที่ลดลง อาจส่งผลให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ บ่ายคาดแกว่งในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,360-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375-1,380 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (7 ก.ย.) สามารถปิดบวกได้ แม้มีแรงกดดันจากเรื่อง สปช.ไม่รับรางรัฐธรรมนูญ และอัตราการว่างงานสหรัฐที่ลดลง อาจหนุนโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยอิงไปแดนลบมากกว่า

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย แกว่งในกรอบ และให้ระวังความผันผวนอาจจะมากขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375-1,380 จุด ขณะที่แนะนำซื้อ CK-STEC-CK-SCC-CPALL-KTC-KBANK และ PS

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ หลังจากที่วานนนี้ (6 ก.ย.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างไรก็ตามมองว่าแม้ดัชนีจะอยู่ในแดนบวกแต่คงจะบวกได้ไม่มาก เพราะวอลุ่มเทรดไม่สนับสนุน ประกอบกับปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้อ และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ แต่มองภาพโดยรวมไปอิงแดนลบมากกว่า โดยต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯแกว่งในกรอบ และให้ระวังความผันผวนอาจจะมากขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375-1,380 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ก.ย.) SET ช่วงเช้าปรับลงไม่มาก แม้ถูกกระทบจาก 2 ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น 1) อัตราการว่างงานสหรัฐที่ลดลง อาจหนุนโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ และ 2) สปช.ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ส่งผลเลือกตั้งช้าไปอีก 1 ปี เป็นช่วงกลางปี 61 ทั้งนี้ แม้การเลือกตั้งที่ล่าช้าออกไปจะเป็นปัจจัยกดดันทาง Sentiment

แต่มองเป็นจังหวะ “ซื้อ” เนื่องจากการเลือกเลือกตั้งออกไป ทำให้ 1) การลงทุนภาครัฐมีความต่อเนื่อง 2) การเมืองมีเสถียรภาพ และ 3) การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้เร็วกว่า ทำให้แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง และค้าปลีก ต่อเนื่อง อย่าง CK-STEC-CK-SCC-CPALL และ KTC

ขณะที ดร.สมคิด เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือ SMEs ให้กับ ครม.วันพรุ่งนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง 1) ด้านสภาพคล่อง 2) สร้างความเข้มแข็ง ซึ่งเรามองว่าการเพิ่มสภาพคล่องให้กับ SMEs จะเป็นการลดภาระธนาคารพาณิชย์ในการตั้งสำรอง แนะนำ “เก็งกำไร” KBANK ขณะที่กลุ่มอสังหาแนะนำ “ซื้อ” PS ที่เน้นบ้านราคาถูก มีโอกาสได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นด้านอสังหา

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,786.44 ล้านบาท ปิดที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

AJD มูลค่าการซื้อขาย 643.86 ล้านบาท ปิดที่ 1.63 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 485.86 ล้านบาท ปิดที่ 259.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 474.42 ล้านบาท ปิดที่ 18.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 471.70 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button