“พาณิชย์” ปักธงส่งออกข้าวปีนี้ 6 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อน เหตุปัจจัยด้านราคา-โควิดฉุดรั้ง
“พาณิชย์” ปักธงส่งออกข้าวปีนี้ 6 ล้านตัน ใกล้เคียงปีก่อน เหตุปัจจัยด้านราคา-โควิดฉุดรั้ง
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้ประชุมร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบร่วมกันในการกำหนดเป้าการส่งออกข้าวไทยที่ปริมาณ 6 ล้านตัน ใกล้เคียงกับการส่งออกในปี 2563 ที่ส่งออกได้ทั้งปีรวม 5.72 ล้านตัน
ปัจจัยหลักที่ยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ ได้แก่ ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งสำคัญ เช่น อินเดีย และเวียดนาม ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นระยะ ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังคงมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ส่งออก ประกอบกับผู้นำเข้าหลายประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง
“ดังนั้น การกำหนดเป้าส่งออกข้าวไทยที่ปริมาณ 6 ล้านตัน ถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดข้าว ทั้งในและต่างประเทศ” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศระบุ
สำหรับแผนด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในต่างประเทศปี 2564 นายกีรติ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ทำให้กรมฯ ไม่สามารถเดินทางไปพบปะกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศดังเช่นที่ผ่านมาได้
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-2567 จะใช้โอกาสนี้ในการเร่งดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทยให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับกฎระเบียบให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทย การจัด Workshop เพื่อพิจารณาแนวทางผลักดันการพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยประสานกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งการจัดทำข้อมูลตลาดข้าวเชิงลึกเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานภาคการผลิตต่อไป ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ทั้งนี้ เพื่อให้ไทยสามารถผลิตสินค้าข้าวที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการดำเนินการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศจาก Offline เป็น Online มากขึ้น โดยแผนดังกล่าวให้ความสำคัญกับการรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และการแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมตลาดข้าวมากขึ้น ซึ่งกิจกรรมหลักที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ประกอบด้วย
1) การหารือกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ผ่านระบบ Video conference อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อิรัก บังกลาเทศ เป็นต้น รวมทั้งการหารือประเทศผู้ส่งออกข้าว เช่น เวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การผลิตและตลาดข้าว
2) การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์
3) จัดกิจกรรมต่อยอดข้าวหอมมะลิไทยที่ได้แชมป์ข้าวที่ดีที่สุดในโลกปี 2563 (World’s Best Rice 2020) ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้วิกฤตโควิด-19 จะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อเศรษฐกิจการค้าทั่วโลก กรมการค้าต่างประเทศจะยังคงเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ด้านการตลาดต่างประเทศ โดยทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่อการส่งออกข้าวไทย รวมทั้งดำเนินการร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ทั่วโลกในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้าวไทย ทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย และคุณประโยชน์ของข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรักษาและขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าในฐานะที่ไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพของโลกต่อไป
สำหรับการส่งออกข้าวปี 2563 มีปริมาณรวมทั้งปี 5.72 ล้านตัน มูลค่า 1.16 แสนล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ที่มีปริมาณ 7.58 ล้านตัน มูลค่า 1.31 แสนล้านบาท โดยปริมาณลดลง 24.54% และมูลค่าลดลง 11.23%