สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ม.ค. 2564
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ม.ค. 2564
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งจำนวนคนว่างงานของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนรายย่อยแห่ซื้อหุ้น GameStop ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวิดีโอเกมชื่อดังในสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,603.36 จุด เพิ่มขึ้น 300.19 จุด หรือ +0.99% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,787.38 จุด เพิ่มขึ้น 36.61 จุด หรือ +0.98% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,337.16 จุด เพิ่มขึ้น 66.56 จุด หรือ + 0.50%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสายการบิน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 403.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.41 จุด หรือ +0.10%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,510.52 จุด เพิ่มขึ้น 50.90 จุด หรือ +0.93%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,665.93 จุด เพิ่มขึ้น 45.47 จุด หรือ +0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,526.15 จุด ลดลง 41.22 จุด หรือ -0.63%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งปรับตัวลงตามราคาน้ำมันท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตาการล็อกดาวน์ ขณะที่ความขัดแย้งเรื่องวัคซีนโควิดระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าถ่วงตลาดลงด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,526.15 จุด ลดลง 41.22 จุด หรือ -0.63%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศและความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงเกือบ 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 51 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 52.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 55.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ทำสถิติปิดในแดนลบติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 1,841.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 53.3 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 25.922 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 6.6 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,072.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,322.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่สดใส ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.21% แตะที่ 90.4600 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8877 ฟรังก์ จากระดับ 0.8893 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.23 เยน จากระดับ 104.16 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2795 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2131 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2100 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3740 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3683 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7663 ดอลลาร์สหรัฐ