SET แกว่งกรอบแคบรอดูผลเฟด-กนง.เคาะ 17 หุ้น Domestic Play ยังมาแรง!
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ รอดูการประชุมเฟด 16-117 ก.ย.นี้ ประเด็นทิศทางอัตราดอกเบี้ย และยังรอดูการประชุม BOJ 14-15 ก.ย.นี้ รวมถึงรอดูการประชุมกนง.ในวันที่ 16 ก.ย.นี้
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานเช้านี้ เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 36.00/02 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 36.12 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 16-17 ก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก แนวเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ รอดูการประชุมเฟด 16-117 ก.ย.นี้ ประเด็นทิศทางอัตราดอกเบี้ย และยังรอดูการประชุม BOJ 14-15 ก.ย.นี้ รวมถึงรอดูการประชุมกนง.ในวันที่ 16 ก.ย.นี้
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ได้แก่ KCE, AP, CPN, GUNKUL, EA, BDMS, PLANB, SYNEX,ADVANC,JAS,CK, ITD,ROBINS, TSR, INTUCH, CENTEL และ DTAC
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก ซึ่งอาจเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ทาง”ทิสโก้”คาดว่าเฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้
นอกจากนี้ ยังรอดูการประชุม BOJ ในวันที่ 14-15 ก.ย.นี้ และรอดูการประชุมกนง.ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,380-1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) การประชุม FOMC วันที่ 16-17 ก.ย.นี้ คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นโลก และ SET “ผันผวน” สัปดาห์นี้ ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,360-1,400 จุด ซึ่งเรามองการปรับลดลงมาที่แนวรับ 1,360-1,380 จุด จะเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” จาก 1) นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ประเมิน Fed ยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทยอยออกมาต่อเนื่องในเดือน ก.ย.-ต.ค.สำหรับการประชุม กนง.สัปดาห์นี้คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.50% ต่อไป
“ซื้อ” กลุ่มสื่อสาร อย่าง ADVANC, INTUCH และ “เก็งกำไร” TRUE (แนวต้าน 10.90 บาท) จากความชัดเจนประมูลคลื่น 1800MHz และ 900MHz ในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.นี้
Fundamental: กลุ่มโรงแรม: “Overweight” ผลกระทบจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.จำกัด คาดกำไรกลุ่มเติบโต 19-23% ในปี 2015-16 ให้ CENTEL เป็น Top Picks
DIF: “ซื้อ” ใกล้สรุป Deal กับ DTAC ปันผล 7.3-8.2% ปี 15-17
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) ดัชนีวันนี้ขึ้นกรอบจำกัด
คาดดัชนีวันนี้รีบาวด์ไม่แรง ภารวมยังแกว่ง คาดตัวเลขจากฝั่งพอร์ต บล.ชะลอหลังสะสมสุทธิ ก.ย.กลับมาติดลบแล้ว ขณะที่สหรัฐโน้มเอียงไปในทางว่ายังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ล่าสุดตัวเลขเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต่ำกว่าคาด และเงินเฟ้อผู้ผลิต ส.ค.อยู่ที่ 0% จึงไม่เร่งให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้หุ้นพลังงานอาจด้อยกว่า SET และจำกัดทางขึ้นหลังราคาน้ำมันลดลง โดยโกลด์แมนแซคลดคาดการณ์ราคาน้ำมันสหรัฐปีนี้สู่ 48.1 เหรียญ/บาร์เรล และปี 2559 เหลือ 45.0 เหรียญ คงมองว่าหุ้น Domestic Play ยังเด่นกว่า หนุนโดยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร SYNEX/สะสมหุ้นกลุ่มหลัก (สื่อสาร ADVANC เก็งกำไร JAS รับเหมา CK,ITD กลุ่มบริโภคในประเทศ ROBINS,TSR)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) ประเด็นสำคัญวันนี้ นายกฯ เริ่มเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ส่วนสัปดาห์นี้ มีการประชุม กนง. วันที่ 16 ก.ย. คาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5 %กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter ที่ 1,380 จุดหากยืนไม่ได้ ให้รอซื้อเก็งกำไรระยะสั้นบริเวณ 1,360 (+/-) จุด แนวต้าน 1,400 จุด
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบ จากการขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ มาสนับสนุน และอยู่ระหว่างรอผลการประชุมนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 16-17 ก.ย. 2558 อีกทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ปรับตัวไร้ทิศทาง และยังไม่มีสัญญาณการกลับเข้ามาซื้อหุ้นสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ การเก็งกำไรแนะนำหุ้นที่มีข่าวดีเป็นรายตัว
กลยุทธ์ : เริ่มสะสมหุ้นที่เป็น laggard เมื่อดัชนีย่อลงระหว่างวัน เน้นกลุ่มปันผลสูง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐหรือค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทยอยขายบ้างเมื่อเข้าใกล้ 1400 จุด
นักลงทุนระยะสั้น : KCE (66), AP (6.70)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้น่าจะผันผวนในกรอบจำกัด หุ้นกลุ่มน้ำมันอาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงแต่คาดว่าไม่มากเพราะราคาหุ้นได้สะท้อนลงมาก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้เชื่อว่านักลุงทนส่วนใหญ่กำลังจับตาและรอผลประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 16 ก.ย นี้ด้วย ซึ่งจะทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางในสัปดาห์นี้
กลยุทธ์วันนี้: เน้นเล่นสั้นในหุ้นขนาดเล็กที่มีปัจจัยเฉพาะตัว หรือได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
Trading วันนี้: GUNKUL (ราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาเพิ่มทุนที่ 22 บาท ซึ่งวันนี้ถึง 18 ก.ย. เป็นช่วงจ่ายค่าหุ้น)
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทน (GUNKUL, EA) กลุ่ม Healthcare (BDMS) และสื่อสาร
KSS report วันนี้: PLANB (Initial Coverage Outperform/เป้า 6.50 บาท)
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ก.ย.) กลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ ขายหุ้นในกลุ่มที่โตจากการบริโภคในประเทศ แต่ให้กลับมาซื้อเก็งกำไรหุ้นใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมองว่าน่าจะมี upside มากกว่า downside risk นอกจากนั้นราคาหุ้นในกลุ่มยังขึ้นได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 1360-1410 จุด จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการประชุม FOMC
วันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวขึ้นตามดัชนีในภูมิภาคหลังดัชนีดาวโจนส์ในวันศุกร์สามารถปรับตัวขึ้นต่อรวมทั้งแรงหนุนจากข่าวจีนประกาศแผนปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ (SOE) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังตัวเลขการลงทุนและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาต่ำกว่าเป้า อย่างไรก็ตามกรอบของการขึ้นน่าจะยังจำกัดเนื่องจากตลาดยังรอความชัดเจนของการประชุม FOMC โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1390-1395 จุด ส่วนแนวรับที่ 1375-1370 จุด
แนะนำซื้อ CPN โดยมีราคาเป้าหมาย 59.50 บาท