ก.ล.ต.เสนอที่ประชุม “ตลาดทุน เอเชียแปซิฟิก” ยกระดับกำกับ-ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
ก.ล.ต.เสนอที่ประชุม "ตลาดทุน เอเชียแปซิฟิก" ยกระดับกำกับ-ดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นเจ้าภาพการประชุมหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (IOSCO APRC) โดยได้นำเสนอต่อ ก.ล.ต. ญี่ปุ่น Japan Financial Services Agency (JSFA) ในฐานะประธาน IOSCO APRC เพื่อให้บรรจุการหารือเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลของตลาดทุน พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นด้านการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุนระหว่างประเทศสมาชิก เมื่อวันที่ 9-10 มีนาคม 2564 ในรูปแบบ virtual meeting
ทั้งนี้ในการประชุม APRC Plenary Meeting เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ก.ล.ต.ได้ริเริ่มนำเสนอประเด็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เข้าร่วมประชุมในเรื่อง การยกระดับการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและการกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ก่อนการให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อมุ่งเน้นการคุ้มครองผู้ลงทุนเป็นสำคัญนับเป็นจุดเริ่มต้นในการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นสำหรับเรื่องดังกล่าว
โดย Australian Securities & Investments Commission (ASIC) ได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลควบคู่ไปกับการให้ความรู้ผู้ลงทุนเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมมีการร่วมหารือถึงปัญหาและความท้าทายในแต่ละประเทศที่คล้ายคลึงกับกรณี GameStop โดย ก.ล.ต. ได้ร่วมนำเสนอประเด็นสำคัญที่หน่วยงานกำกับดูแลควรพิจารณา ได้แก่ การใช้สื่อสังคม (social media) เพื่อชักจูงผู้ลงทุนในการซื้อหลักทรัพย์เพื่อสร้างราคา การกำกับดูแลธุรกรรมการขายชอร์ต (short-selling) และการกำกับดูแลระบบซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ (online trading platform)
สำหรับภาพรวมที่ประชุม APRC Plenary Meeting ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ พัฒนาการ และหารือเกี่ยวกับความท้าทาย ในการกำกับดูแล รวมถึงหยิบยกประเด็นปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ ซึ่งสมาชิกได้ร่วมเสนอแนะแนวทางในการรับมือและการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น การยกระดับความร่วมมือด้านการกำกับดูแลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งการหารือในประเด็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา การกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุนของประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การหารือในประเด็นต่าง ๆ ดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุม Supervisory Directors Meeting และ Enforcement Directors Meeting เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ซึ่ง ก.ล.ต. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน 1 ฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน 2 และฝ่ายกำกับการขายผลิตภัณฑ์การลงทุน ทำหน้าที่เป็นประธานดำเนินการประชุม
สำหรับประเด็นหารืออื่นที่สำคัญ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การปรับเปลี่ยนวิธีการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และให้เท่าทันพัฒนาการในตลาดทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลขนาดใหญ่ (AI/Big data) ในการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจ (off-site monitoring) การใช้เทคโนโลยี blockchain
โดยการออกและเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (initial public offering) การใช้ข้อมูลในการตรวจจับความผิด การติดตามเพื่อตรวจจับการนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปใช้ในทางมิชอบ และการกำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบุคคลภายนอก ตลอดจนแนวทางการกำกับดูแลแบบ risk-based supervision การกำกับดูแลการปฏิบัติของผู้ประกอบธุรกิจต่อผู้ลงทุนรายย่อย และข้อจำกัดด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี เช่น การระบุตัวตนและการเข้าถึงข้อมูลเพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบหลักฐานทางดิจิทัล
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังร่วมแสดงความเห็นในเรื่อง หลักเกณฑ์และการกำกับดูแลการเงินที่ยั่งยืน ทั้งด้านการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท การสนับสนุนให้ธุรกิจจัดการลงทุนนำปัจจัยด้าน ESG มาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณานโยบายการลงทุน การจัดการกรณีที่ผู้ออกตราสารบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม (greenwashing) และจัดอันดับคุณภาพด้าน ESG โดยการพัฒนาประเด็นข้างต้น IOSCO สนับสนุนให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจัดทำมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ที่เป็นระดับสากล เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วน สามารถเปรียบเทียบได้และสอดคล้องกัน
โดยประเด็นสำคัญที่หารือกันในการประชุมข้างต้นมีความสอดรับกับ Work Program 2021-2022 ของ IOSCO ที่จะดำเนินการต่อไปในระยะข้างหน้า โดยจากผลกระทบของโควิด-19 นั้น IOSCO ได้เพิ่ม 2 ประเด็นสำคัญที่หน่วยงานต่าง ๆ ควรติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ได้แก่ (1) เสถียรภาพระบบการเงินและความเสี่ยงเชิงระบบของกิจกรรมที่ดำเนินโดยสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (non-bank financial institution) และ (2) ความเสี่ยงที่ทวีความรุนแรงขึ้น ได้แก่ ความเสี่ยงจากการประพฤติผิด ความเสี่ยงด้านการดำเนินการและด้านไซเบอร์ และด้านการตรวจสอบการทุจริตและหลอกลวง
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของ IOSCO ประจำปี 2566 (IOSCO Annual Meeting 2023)